กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--เซ็นทรัลพัฒนา
- เดินหน้าก่อสร้างเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดให้บริการ สิงหาคม ปีหน้า (2562)
- คว้าแบรนด์ลักชูรี่ดังแล้วกว่า 50% พร้อมผนึกแบรนด์อินเตอร์ในกลุ่มเซ็นทรัล
- ตั้งอยู่บนถนนสายหลักเข้าสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 10 นาที สมบูรณ์แบบด้วยเอาท์เล็ต โรงแรม ร้านอาหาร พร้อมรับการขยายสนามบิน เทอร์มินอล 2 เทียบชั้น Aerotropolis ระดับโลก
วันนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ผู้นำศูนย์การค้าอันดับหนึ่งของไทยด้วยความเชี่ยวชาญการบริหารศูนย์การค้ามาตรฐานระดับโลก เดินหน้าก่อสร้างเต็มรูปแบบโครงการ 'เซ็นทรัล วิลเลจ' ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Bangkok Outlet Experience' ลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย ที่พร้อมเปิดเดือนสิงหาคม ปีหน้า (2562) คว้าแบรนด์ลักชูรี่มากมายไปแล้วกว่า 50% จากบูทีคสโตร์รวมกว่า 235 ร้านค้า พร้อมผนึกกำลังกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (ซีเอ็มจี) ผู้นำเข้าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของประเทศ เผยมีแบรนด์ชั้นนำระดับโลกตอบรับแล้ว อาทิ Polo Ralph Lauren, Kenzo, Vivienne Westwood เอาท์เล็ตแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย, CK Jeans, และ Adidas ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดบนถนนสายหลักเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที จับกลุ่มทัวริสต์ไทยเทศได้แวะช้อปก่อนเข้าเมือง หรือก่อนกลับไปสนามบิน และคนกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปได้ในระยะที่พอดีจากในเมืองประมาณ 45 นาทีด้วยทางด่วน และถนนสายหลักหลายสาย ตอบรับเทรนด์การสร้างเมืองสนามบิน (Aerotropolis) ให้ประเทศไทยสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งแห่งใหม่ของคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างแท้จริง
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า "เซ็นทรัล วิลเลจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Bangkok Outlet Experience' ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างประสบการณ์การ ช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ตที่แท้จริงที่เมืองไทยยังไม่เคยมีมาก่อน สมศักดิ์ศรีความหรูหราในการเป็น The First International Luxury Outlet in Thailand โดยหวังจับกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูงและคนที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมทั่วประเทศที่จะต้องมาช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมในราคาคุ้มค่า ซึ่งมีให้ที่เราเพียงที่เดียว รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว Young Affluent จากทั่วโลก อาทิ ชาวจีน รัสเซีย วันนี้เรามีความภาคภูมิใจที่จะประกาศว่า โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ได้ปิดดีลการขายจากแบรนด์เนมระดับโลกไปมากกว่า 50% และได้เดินหน้าก่อสร้างอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม ปีหน้าอย่างแน่นอน"
นางสาววัลยา กล่าวเพิ่มเติมว่า "โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ตั้งอยู่บนเส้นทางหลักเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีบริการรถรับส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง เซ็นทรัล วิลเลจ ซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที เช่นเดียวกับเอาท์เล็ตในเอเชียหลายแห่งในเมืองท่องเที่ยวของโลก เช่น โอซาก้า, ฮอกไกโด และ ฮ่องกง นอกจากนี้ เซ็นทรัล วิลเลจยังมีบริการรถรับส่งจากเซ็นทรัลเวิลด์มายังโครงการ และเชื่อมต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว โดยเราได้ใช้งบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท พื้นที่โครงการ (GLA) 40,000 ตร.ม. บนที่ดิน 100 ไร่ ออกแบบและตกแต่งในสไตล์ไทยร่วมสมัยที่น่าตื่นตาตื่นใจในบรรยากาศอันร่มรื่นของธรรมชาติผสานกับพื้นที่เอาท์ดอร์ ร่วมด้วยบริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ อาทิ โรงแรมมาตรฐานระดับโลก, ร้านอาหาร, จุดบริการนักท่องเที่ยว, สนามเด็กเล่น เป็นต้น เพื่อตอบสนองลูกค้าทุกเพศทุกวัย"
นายชาติ จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Partner Management ฝ่ายขาย บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า "เนื่องจากโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ เป็นโครงการลักชูรี่ เอาท์เล็ตที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของไทย เราจึงร่วมงานกับคอนซัลแตนท์ระดับโลก ( World-class Consultancy) มุ่งเน้นการบริหารงานแบบมืออาชีพ เราเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 38 ปีในการบริหารศูนย์การค้ามาตรฐานระดับโลก และความเชี่ยวชาญในการการสร้างสรรค์อีเว้นต์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของเซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่หรูหรา รวมถึงคอนเนกชั่นกับลักชูรี่แบรนด์และบริดจ์ไลน์แบรนด์ที่หลากหลาย ทั้งแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ เช่น Adidas ,Matter Makers, Converse, Superdry, Rip Curl, Roxy, Quiksilver เป็นต้น รวมถึงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัว ของเล่น อุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกมากมาย จะทำให้โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ดึงดูดทราฟฟิกจากกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ได้ถึงปีละกว่า 6 ล้านคน หรือวันละกว่า 17,000 คน โดยขณะนี้เราได้รับคำตอบรับและความไว้วางใจอย่างดีจากหลายบริษัทและแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เข้าร่วมกับเราแล้วมากกว่า 50% จากบูทีคสโตร์กว่า 235 ร้านค้า นอกจากนี้ เรายังได้จับมือกับ แบรนด์จากเครือบริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด และผสานความแข็งแกร่งจากการผนึกกำลังครั้งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกันผลักดันเมืองสนามบินให้เกิดขึ้นจริงผ่านองค์ประกอบต่างๆ อีกด้วย"
มร.เอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด เผยว่า "เรามองเห็นจุดแข็งของโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ดีที่สุดในย่านสุวรรณภูมิ และมั่นใจถึงการผนึกกำลังกันของกลุ่มเซ็นทรัล โดยทางเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ได้ยกทัพแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกของเรา ได้แก่ Polo Ralph Lauren, CK Jeans, CK underwear, Guess, Samsonite และอีกมากมาย มาร่วมสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งเอาท์เล็ตที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและพร้อมจะสนับสนุน เซ็นทรัล วิลเลจ ในทุกโลเคชั่นในอนาคต"
"ทั้งนี้ เราเล็งเห็นเทรนด์เมืองสนามบิน หรือแอโรโทรโพลิส (Aerotropolis) ที่เป็นเทรนด์ของการพัฒนาเมืองในเขตสนามบินทั่วโลก ที่มีการพลิกโฉมให้เติมเต็มความครบครันทั้งแหล่งช้อปปิ้งอย่าง ศูนย์การค้า โรงแรม เอาท์เล็ตมอลล์ ร้านอาหาร จนถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ เวิร์คกิ้งฮับ ที่ครบวงจรกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เราจึงอยากผลักดันให้ย่านสุวรรณภูมิ 1 ใน 10 อันดับของสนามบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นปราการด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 55 ล้านคนในปี 2560 ด้วยโปรเจ็คสุดหรูอย่าง โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ให้เกิดขึ้นจริง นับเป็นหนึ่งใน key strategic move ที่ ตอกย้ำความเป็น หนึ่งใน Global Player ระดับเอเชียและระดับโลกของเซ็นทรัลพัฒนาโดยในอนาคตมีแผนจะเปิดเซ็นทรัล วิลเลจในโลเคชั่นอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป" นางสาววัลยากล่าวทิ้งท้าย
โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ภายใต้แนวคิด Bangkok Outlet Experience จะเป็น A Must Visit Shopping Destination to complete your trip จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องแวะช้อปทุกครั้งก่อนเข้าเมืองหรือเดินทางกลับเข้าสนามบิน และเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งแบรนด์เนมแห่งใหม่ของคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกในราคาที่ลดแบบคาดไม่ถึงได้ทุกวัน เพื่อมอบปรากฏการณ์ใหม่ให้กรุงเทพฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยให้เป็นหนึ่งใน World-Class Shopping Destination ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้