กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และเครือข่ายความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชีย (ANSN) เป็นเจ้าภาพจัด 2 การประชุมระดับภูมิภาคต่อเนื่อง มุ่งเสริมสมรรถนะการประเมินความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีให้กับประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย ตั้งแต่วันที่ 26 - 30 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
นางวราภรณ์ วัชรสุรกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ ได้รับมอบหมายจาก นางสาววิไลวรรณ ตันจ้อย รองเลขาธิการสานักงานปรมาณูเพื่อสันติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นประธานเปิดงานประชุมระดับภูมิภาค "การเสริมสมรรถนะการประเมินความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี" (Expert Meeting on How to Develop Capacity Building of Safety Assessment) และการประชุมประจำปีของกลุ่มประเมินความปลอดภัยภายใต้เครือข่าย ANSN (Topical Group on Safety Assessment : SATG) โดยมีผู้แทนจาก IAEA และประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย อาทิ บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย เข้าร่วมจำนวน 24 คน ตั้งแต่วันที่ 26 - 30 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมแคนทารีย์ เบย์ ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก IAEA ในการส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ผ่านกิจกรรมบรรยาย การฝึกปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งอภิปรายแนวทางและแผนการดำเนินงานความร่วมมือทางวิชาการด้านการประเมินความปลอดภัยสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และรังสีร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความพร้อม ในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในแต่ละประเทศให้สามารถปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางวราภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการนำพลังงานนิวเคลียร์และรังสีมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย โดยมีสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และรังสีกระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 57 ปีที่ผ่านมา ปส. ให้ความสำคัญในการทำหน้าที่ประเมินและกำกับดูแลให้เกิดความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีต่อผู้ปฏิบัติงาน ประชาชน และสิ่งแวดล้อมภายในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าควบคุมความปลอดภัยในสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และรังสีต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ปส. เชื่อว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับภูมิภาคในครั้งนี้ นอกจากจะส่งเสริมการบูรณาการและสร้างเครือข่ายความรู้และการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรในประเทศสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรของไทยในการนำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในกำกับดูแลความปลอดภัยของประเทศ โดยเฉพาะในสถานประกอบทางนิวเคลียร์ ได้แก่ เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัยซึ่งใช้สำหรับงานวิจัยและพัฒนาทางนิวเคลียร์และรังสี โดยปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัยอยู่ 1 เครื่อง และ กำลังจะมีเพิ่มขึ้นอีก 2 เครื่อง ในอนาคตอันใกล้นี้ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศได้อย่างหลากหลาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองตรวจสอบทางนิวเคลียร์และรังสี โทรศัพท์ 0 2596 7600 ต่อ 1520