กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--แฟรนคอม เอเชีย
ในระหว่างปาฐกถาในงาน Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ที่กรุงลอนดอน มร. ไรอัน ติง กรรมการบริหาร และประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ย ประกาศว่า หัวเว่ยได้ลงนามในสัญญา 5G เชิงพาณิชย์แล้ว 22 ฉบับ สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับในผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5G ของหัวเว่ยจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ในระหว่างการกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "5G is on, Taking Mobile to New Horizons" มร. ติง กล่าวว่า 5G กำลังจะเปิดศักราชหน้าใหม่ให้กับวงการ ICT และมีศักยภาพที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อได้ถึงสิบเท่า 5G จะนำโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนมาสู่อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ เอกสาร Release 15 ซึ่งเป็นมาตรฐาน 5G ฉบับแรก เน้นไปที่ eMBB หรือ Enhanced Mobile Broadband ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้แต่ละรายใช้ข้อมูลมากขึ้น เนื่องจากสามารถทำอะไรได้มากขึ้นเมื่อเชื่อมต่อเครือข่าย 5G จะทำให้ครัวเรือนมีแบนด์วิดท์สูง และทำให้การเชื่อมต่อ WTTx เป็นทางเลือกแรกสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ นอกจากนี้ 5G ยังทำให้เกิดคุณสมบัติใหม่ ๆ ขึ้นอีก รวมทั้งการเชื่อมต่อจำนวนมาก ความเร็วระดับ superfast และความหน่วงที่ต่ำมาก ซึ่งจะพลิกโฉมให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และสร้างมูลค่ามหาศาลให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำกำลังเร่งเดินหน้าติดตั้งใช้งาน 5G ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากผู้ที่ลงมือก่อนก็ย่อมจะได้รับผลตอบแทนกลับมาก่อน การพัฒนา 5G ก็กำลังก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยปัจจัยสองประการ คือ 1) ประเทศใหญ่ ๆ จะเป็นผู้ใช้ 5G กลุ่มแรกๆ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะคิดเป็นจำนวนหนึ่งในสามของประชากรโลก ซึ่งเป็นสเกลการใช้งานที่ใหญ่กว่าคลื่นลูกแรก ๆ ของการให้บริการ 3G และ 4G เชิงพาณิชย์
ปัจจัยที่สองคือ อุตสาหกรรมดีไวซ์ โดยสมาร์ทโฟน 5G จะเริ่มวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2562 รวมถึงโทรศัพท์ 5G แบบพับได้ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้ ผู้ผลิตโทรศัพท์ชั้นนำจะเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นประหยัด (ราคาประมาณ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ) อย่างรวดเร็วหลังการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม 5G ก้าวรุดหน้าต่อไป
"ทุกๆ เครือข่ายรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ ๆ และก็เช่นเดียวกับการติดตั้งใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ ด้วย" มร. ติง กล่าว "เรารับเอาความซับซ้อนมาและมอบความเรียบง่ายกลับไปให้ ซึ่งหมายความว่าเราจะจัดหาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อจัดการกับความท้าทายในการให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ การทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของเรากับผู้ให้บริการจะช่วยให้พวกเขาค้นพบวิธีการที่ง่ายดายในการก้าวสู่ 5G"
ในระหว่างแสดงปาฐกถา มร. ติง ยังได้แนะนำโซลูชันใหม่ของหัวเว่ย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้ง 5G เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม โซลูชัน Massive MIMO ขนาดกะทัดรัดของหัวเว่ย มี AAU ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและเล็กที่สุดในโลก และมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทำหน้าที่ได้อย่างน่าเชื่อถือแม้ในช่วงไต้ฝุ่นระดับ 15 เนื่องจากสถานีฐานที่มีอยู่ค่อนข้างแออัด โซลูชัน 1+1 simplified antenna ของหัวเว่ย จะช่วยให้ไซต์มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยลดต้นทุนค่าเช่าให้กับผู้ให้บริการ หัวเว่ยยังมีโซลูชันแยกการเชื่อมโยงสัญญาณ uplink และ downlink ซึ่งสามารถประสานการครอบคลุมของ 4G และ 5G C-band ทำให้ผู้ใช้งานมีการครอบคลุมของสัญญาณที่ราบรื่น โซลูชันพลัง 5G และโซลูชันคลื่นไมโครเวฟของหัวเว่ยจะช่วยผู้ให้บริการสร้างระบบ 5G ได้รวดเร็วและง่ายดายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง หัวเว่ยยังใช้ AI เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดความซับซ้อนของระบบปฏิบัติการและบำรุงรักษา (O&M) รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (OPEX) ลงได้อีกด้วย
"การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" มร. ติง กล่าว "5G เริ่มต้นขึ้นแล้ว และผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5G ที่เป็นนวัตกรรมระดับแนวหน้าพร้อมด้วยประสิทธิภาพครบวงจรของหัวเว่ย ก็ได้รับการยอมรับจากลูกค้า โดยจนถึงปัจจุบันนี้ เราได้ลงนามสัญญา 5G กับลูกค้าไปแล้ว 22 ราย และเราก็กำลังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการกว่า 50 รายในการดำเนินการทดสอบ 5G เชิงพาณิชย์ ด้วยการลงทุนอย่างหนักและนวัตกรรมที่มีต่อเนื่อง เราจึงมุ่งมั่นที่จะช่วยผู้ให้บริการติดตั้งใช้งานเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากและคุ้มค่า และเราก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม 5G ให้แข็งแกร่งต่อไป"