กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,595 จุด แนวต้าน 1,650 จุด แนะนักลงทุน ยังคงต้องจับตาปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมลุ้น ช่วงโค้งสุดท้าย มาตรการตุ้นเศรษฐกิจ และ อานิสงส์เม็ดเงินกองทุน LTF / RMF พยุงดัชนี ส่วนราคาทองคำแกว่งชะลอตัวรอดูการประชุม G20 และยังคงคำแนะนำให้ trading ในกรอบราคาระหว่าง 1,200–1,250 ดอลลาร์/ออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากในประเทศในการคาดการณ์ว่าที่ประชุมครม.จะทยอยอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี รวมถึงในเดือนธันวาคมคาดว่าจะได้เห็นการปลดล็อกให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมืองได้ และเม็ดเงินกองทุน LTF ช่วงปลายปีช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย
ส่วนปัจจัยด้านลบที่ยังคงกดดันการลงทุนอยู่ในช่วงนี้ได้มี นักวิชาการม.รังสิตได้วิเคราะห์ GDP ในช่วง Q4 อาจจะยังคงเติบโตต่ำกว่า 4% ต่อเนื่องจาก Q3 เนื่องจากเศรษฐกิจในระดับฐานรากยังไม่ได้ขยายตัวมากนัก ทิศทางการค้าโลกยังคงชะลอตัวลงทำให้ภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่ Consensus ต่างทยอยปรับลดประมาณการ GDP ปี 61 หลังตัวเลข GDP ในช่วง Q3/2561 ชะลอตัวมาก
นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนหน้าตามที่ได้ส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้ และ Fund Flow ไหลออก ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.8 แสนล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันที่ 27 พ.ย. สหรัฐฯ เปิดเผย ราคาบ้านเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. วันที่ 28 พ.ย. สหรัฐฯ เปิดเผย กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 3/2561 สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเบื้องต้นเดือนต.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
รวมถึงในวันที่ 29 พ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 7-8 พ.ย.เพื่อพิจารณาถึงปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค. วันที่ 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และในวันที่ 30 พ.ย. -1 ธ.ค. กำหนดประชุมกลุ่มประเทศ G20 โดยปธน.สหรัฐและปธน.จีนจะพบปะกันนอกรอบ ซึ่งทั่วโลกต่างจับตาว่าผู้นำทั้งสองจะสามารถเจรจาและแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าได้หรือไม่
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ผันผวนในกรอบ 1,595–1,650 จุด โดยแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากคลังออกมาตรการช็อปช่วยชาติ CPALL, HMPRO, ROBINS, CPN, MINT, CENTEL, M และ MAKRO และหุ้น MSCI ประกาศปรับการคำนวณดัชนีรอบกลางปีมีผล 30 พ.ย. ดัชนี Global Standard หุ้นเข้า : GULF, MTC หุ้นออก :ไม่มี ส่วนดัชนี Small Cap หุ้นเข้า ได้แก่ CBG, MBK, PRINC หุ้นออก ได้แก่ CCET, DDD, ICHI, MONO และ VNG
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ราคาทองคำแกว่งชะลอตัวรอดูการประชุม G20 ซึ่งมีกำหนดการที่ผู้นำสหรัฐฯกับจีนจะพบกันนอกรอบเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างกัน แต่ท่าทีของฝั่งสหรัฐฯในช่วงนี้ค่อนข้างแข็งกร้าว ทำให้นักลงทุนค่อนข้างวิตกว่าการเจรจาดังกล่าวอาจประสบความล้มเหลว และจะมีผลลบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกต่อไปอีกในช่วง 1–2 ปีข้างหน้า
ประกอบกับ ความกังวลต่อการล้นตลาดของน้ำมันดิบ ซึ่งกดให้ราคา WTI ดิ่งลงจาก 76 ดอลลาร์ มาแตะ 50 ดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำยืนระยะต่อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย คงคำแนะนำให้ trading ในกรอบราคาระหว่าง 1,200–1,250 ดอลลาร์/ออนซ์