กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,212.30-1,215.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,100 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,220 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.09 น. ของวันที่ 28/11/61)
แนวโน้มวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561
ความตึงเครียดทางการค้าจีน-สหรัฐ กระตุ้นการลงทุนดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนมีกำหนดจัดการเจรจาในประเด็นการค้านอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ณ กรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. แต่คำกล่าวที่แข็งกร้าวของปธน.ทรัมป์ทำลายความหวังว่าจะยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ในระยะเวลาอันใกล้ ขณะที่ทางด้านนายลาร์รี่ คัดโลว์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการที่คณะที่ปรึกษาของทั้ง 2 ฝ่าย จะนั่งเจรจากันอีกรอบที่กรุงบิวโนส ไอเรส อย่างไรก็ดีคัดโลว์แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวกับทีมที่ปรึกษาของเขาว่า มีโอกาสมากที่จะทำข้อตกลงกันได้และเขาก็พร้อมที่จะทำเช่นนั้น คัดโลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า งานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำในการพบกันของผู้นำ 2 ฝ่ายจะเป็นโอกาสในการเจรจาการค้ากับจีน ถึงแม้เท่าที่ผ่านมาสหรัฐรู้สึกผิดหวังต่อปฏิกิริยาของจีนซึ่งไม่ค่อยเปลี่ยนในประเด็นข้อพิพาทต่างๆ ข้อพิพาททางการค้าที่ยังไม่ชัดเจนหนุนดัชนีดอลลาร์ให้ขยับขึ้นและอยู่ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ โดยดอลลาร์อยู่ที่ 97.38 หลังจากที่ปรับขึ้น 3 วันติดต่อกัน โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 97.69 เพียงเล็กน้อย กดดันราคาทองคำอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนรอสิ่งบ่งชี้จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เกี่ยวกับแนวทางในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด อีกครั้ง โดยระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนโยบายอื่นๆของเฟด สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ความสนใจจึงเปลี่ยนไปที่คำกล่าวของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในกลางดึกของคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย และท่าทีของเจ้าหน้าเฟดต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด รวมทั้งติดตามรายงานการประชุมวันที่ 7-8 พ.ย.ของเฟด กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักลงทุนจะดูสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกกี่ครั้งในปี 2562 ซึ่งวายแอลจี ประเมินว่าหากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งการอ่อนตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไรเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หลังจากราคาทองคำไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือบริเวณ 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เริ่มเห็นแรงขายที่ออกมาเพิ่มขึ้นจนราคาอ่อนตัวลง แต่ถ้าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเห็นการดีดตัวของราคาอีกครั้ง แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ อาจเห็นการอ่อนตัวของราคาลงต่อ โดยประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,200-1,196 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรตัดขาดทุน เพื่อไปรอซื้อใหม่อีกครั้งบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,200-1,196 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,209 (18,850บาท) 1,196 (18,650บาท) 1,187 (18,500บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,300บาท) 1,244 (19,400บาท) 1,256 (19,600บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,209 (19,030บาท) 1,196 (18,820บาท) 1,187 (18,680บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,470บาท) 1,244 (19,580บาท) 1,256 (19,770บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999