กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี ชี้ เอดส์ป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันเอดส์โลก(World AIDS Day) เป็นวาระสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกร่วมกันรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์และการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งการติดเอชไอวี นับว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ และส่งผล กระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของทุกประเทศทั่วโลก
นพ.ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) เปิดเผยว่า จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ(UNAIDS) พบว่า ในปี 2559 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก 36.9 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 1.8 ล้านคน ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ในปี 2558 พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,759 คน และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีสะสมทั้งหมด 1,526,028 คน ซึ่งกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุดคือกลุ่มชายรักชาย รองลงมาคือกลุ่มใช้สารเสพติด และกลุ่มขายบริการทางเพศ
จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ป้องกันตนเองด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ในทุกช่องทาง ทั้งชายรักชาย หญิงรักหญิง และชายรักหญิง เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ส่วนผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยงทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น ผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย สามารถเข้ามารับบริการให้คำปรึกษา และตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง การทราบผลการตรวจเลือดจะช่วยให้ผู้ที่ไม่ติดเชื้อเกิดความตระหนักในการ ป้องกันตนเอง ส่วนผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ก็จะป้องกันไม่ถ่ายทอดเชื้อไปให้ผู้อื่น ขณะเดียวกันจะได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดการป่วยจากโรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรค และลดการเสียชีวิต หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422"
สำหรับวันเอดส์โลกในปี 2561 นี้ กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ภายใต้แนวคิด "ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ยุติเอดส์" มุ่งเน้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการรู้สถานะตนเอง ประเมินความเสี่ยงได้ รู้วิธีการป้องกันตนเองโดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ในทุกช่องทาง และสามารถเข้าถึงบริการตรวจเอชไอวีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว