EA นับถอยหลัง COD โครงการหนุมาน 260 MW หนุนผลงานทุบสถิติสูงสุดหลังเข้าตลาดครบ 6 ปีเต็ม ตอกย้ำหุ้น High Growth ตัวจริง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 3, 2018 11:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--พลังงานบริสุทธิ์ EA เตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงาน "โครงการลมหนุมาน" จ.ชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 MW เร็วๆ นี้ หนุนผลงานปี 62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งจากโซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์มแตะ 664 MW ตามแผนงานที่ระบุไว้ ตอกย้ำหุ้น High Growth ตัวจริง ด้านผู้บริหาร "อมร ทรัพย์ทวีกุล"มั่นใจโรงงานแบตฯสร้างเสร็จ-เริ่มดำเนินการผลิตในปี 62 ตามแผนรัฐบาลไต้หวันพร้อมซัพพอร์ตเต็มสูบ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า โครงการหนุมาน จ.ชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วยโครงการย่อย 5 โครงการ คาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้เลือกใช้กังหันลมจาก Siemens Gamesa ประเทศสเปน ซึ่งเป็นผู้ผลิตระดับชั้นนำของโลก เพื่อให้มั่นใจในด้านเทคโนโลยี ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัย และความมั่นคงแข็งแรงอีกด้วย ซึ่งภายหลังจาก COD เรียบร้อยแล้วจะส่งผลให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์มเพิ่มขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ ผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ EA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเดือนมกราคม ปี 2556 บริษัทสามารถสร้างรายได้และกำไร เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมตามแผนงานที่วางไว้ และได้เปิดเผยแผนดังกล่าวไว้ในหนังสือชี้ชวน โดยในปี 2556 กำไรสุทธิ 267.92 ล้านบาท ปี 2557 กำไรสุทธิ 1,608.46 ล้านบาท ปี 2558 กำไรสุทธิ 2,686.92 ล้านบาท ปี 2559 กำไรสุทธิ 3,251.51 ล้านบาท ปี 2560 กำไรสุทธิ 3,817.45 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกของปี 2561 กำไร สุทธิ 4,206.26 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นหุ้น High Growth ที่เติบโตจากการระดมทุนผ่านตลาดทุน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ล่าสุด บริษัทได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมกักเก็บพลังงาน โดยเข้าลงทุนในบริษัท Amita Technologies Inc., ไต้หวัน และนำเทคโนโลยีมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงในประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานเฟสที่ 1 และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2562 การลงทุนครั้งนี้ นับเป็นครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และใช้เงินลงทุนมูลค่าสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนรัฐบาลไต้หวัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันเชิญบริษัทฯให้เข้าลงนามใน Letter of Intent เพื่อสนับสนุนธุรกิจแบตเตอรี่อย่างเต็มที่ "การขยายการลงทุนเข้าสู่อุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานและแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน เพื่อป้อนไปยังอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ EA ในฐานะผู้ประกอบการคนไทย ที่จะขึ้นสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยมีพื้นฐานจากการมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราไม่สามารถหยุดนิ่งหรือรอเวลา แต่เราเชื่อว่านวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ เปิดโอกาสให้เราก้าวขึ้นมาสร้างการเติบโตอีกขั้นหนึ่งให้กับ EA ได้ " นายอมรกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ