ผลการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2551

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2008 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ก.ล.ต.
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2551 มีมติในเรื่องดังต่อไปนี้
1.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) และการขายหลักทรัพย์
2.ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การมีสาขาของ บล.
3.ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การรับสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ (TFEX)
1. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) และการขายหลักทรัพย์
คณะกรรมการ ก.ล.ต. เล็งเห็นว่าจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกให้มีการทำธุรกรรม SBL และการขายชอร์ตหลักทรัพย์มากขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีเสถียรภาพมากขึ้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงเห็นชอบให้แก้ไขหลักเกณฑ์ ดังนี้
1.1 หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ SBL
(1) ให้สามารถยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ทั้งที่อยู่ภายใต้การจัดการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในประเทศและในต่างประเทศได้
(2) เพิ่มเติมประเภททรัพย์สินที่วางเป็นหลักประกัน ให้ครอบคลุมถึง ก) เงินสดทุกสกุล ข) หลักทรัพย์จดทะเบียนทุกประเภท ยกเว้นใบสำคัญแสดงสิทธิต่างๆ และ ค) หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดที่เปิดขายหรือรับซื้อคืนทุกวันทำการ รวมทั้งสามารถนำเงินที่ได้รับจากการขายชอร์ตมาวางเป็นหลักประกันได้ด้วย
(3) กำหนดสัดส่วนของยอดหนี้ที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จะให้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์และให้ยืมหลักทรัพย์ แก่ลูกค้ารายย่อยรายใดรายหนึ่ง เมื่อสิ้นวันต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุนของ บล. และเมื่อรวมลูกค้าทุกรายแล้วต้องไม่เกิน 5 เท่าของเงินกองทุนของ บล. เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในการให้กู้ยืม
(4) ยกเลิกหลักเกณฑ์ที่เป็นภาระ เช่น การแจ้งวัตถุประสงค์ในการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และการห้ามยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์เพื่อนำไปขายในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เป็นต้น
1.2 หลักเกณฑ์การขายชอร์ตหลักทรัพย์
ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ลูกค้าสามารถขายชอร์ตผ่านบัญชีเงินสดได้ จากเดิมที่ให้ขายผ่านบัญชีมาร์จิ้นเท่านั้น โดย บล. ต้องมั่นใจว่าลูกค้ามีการยืมหลักทรัพย์ไว้แล้วและลูกค้าจะสามารถส่งมอบหลักทรัพย์ได้ภายในเวลาที่กำหนด รวมทั้งได้เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถยืมหลักทรัพย์ได้ทั้งจาก บล. และจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อส่งมอบกรณีผิดนัด
2. ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การมีสาขาของ บล.
เพื่อให้ บล. ดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัว สามารถเพิ่มรายได้ ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมรองรับการแข่งขันก่อนการเปิดเสรีใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต คณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมีสาขาของ บล. โดยอนุญาตให้ บล. สามารถแต่งตั้งผู้จัดการสาขา 1 คน ให้ดูแลรับผิดชอบมากกว่า 1 สาขาได้ พร้อมทั้งออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่ออนุญาตให้ บล. สามารถมีสาขาในต่างประเทศได้ หากมีความพร้อมในด้านฐานะการเงิน ด้านระบบงาน และมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจที่ต่างประเทศ
อนึ่ง เพื่อให้มีการคุ้มครองผู้ลงทุนมากขึ้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับการเปิดสาขาแห่งใหม่ โดย บล. ต้องมีระบบในการจัดการข้อร้องเรียนเพื่อระงับข้อพิพาทระหว่าง บล. กับลูกค้า โดยหาก บล. เข้าร่วมโครงการอนุญาโตตุลาการของ ก.ล.ต. ก.ล.ต. จะถือว่า บล. ได้จัดให้มีระบบดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้สำหรับกรณีบริษัทที่ประกอบธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ประสงค์จะมีสาขาด้วย
3. ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การรับสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ (TFEX)
เนื่องด้วยปริมาณการซื้อขายสัญญา futures และ options ใน TFEX ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา TFEX จึงได้เสนอหลักเกณฑ์
การเปิดรับสมาชิกรอบใหม่ให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณา โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นชอบหลักเกณฑ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ TFEX จะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ในรอบนี้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ถึง 30 เมษายน 2551 และจะเปิดรับสมาชิกครั้งต่อไปในอีก 2 ปีนับจากวันประกาศรับสมัครสมาชิกในรอบนี้ หรือเมื่อมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นและคณะกรรมการตลาดอนุพันธ์เห็นสมควร ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TFEX

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ