กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 03 ธันวาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,221.00-1,232.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,210 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,150 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.26 น. ของวันที่ 03/12/61)
แนวโน้มวันที่ 04 ธันวาคม 2561
จีนและสหรัฐพยายามลดความเห็นที่แตกต่างกันผ่านการเจรจาการค้าครั้งใหม่ หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เจรจานอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากอัตรา 10% เป็น 25% ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 อีกทั้งปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า จีนได้ตกลงที่จะ"ลดและยกเลิก"ภาษีต่อรถยนต์สหรัฐต่ำกว่าระดับ 40% ที่ในขณะนี้จีนเก็บต่อรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐ แม้ว่าทองคำจะได้รับแรงหนุนจากประเด็นดังกล่าวเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่การระงับสงครามการค้าเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งหนุนดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากประเด็นการค้าแล้ว นักลงทุนเปลี่ยนความสนใจไปที่นโยบายการเงินของสหรัฐ แม้ว่าคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ของปีนี้ แต่หลังจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ โดยถ้อยคำดังกล่าวถูกตีความเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะมีจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงในช่วงปี 2562 โดยความเห็นของประธานเฟดสอดคล้องกับความเห็นของ นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส และ นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด มุมมองดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดท่านอื่น โดยวันอังคารแนะนำติดตามความเห็นของ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาตั้งข้อสังเกตว่าเฟดไม่ได้มีแนวทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและจะปรับนโยบายการเงินเพื่อรักษาให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งในขณะที่เงินเฟ้อต่ำ ทั้งนี้ ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบ แต่หากราคาสามารถยืนเหนือโซน 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประเมินว่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) หรือ TFEX จะปิดทำการในวันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งนักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเนื่องจากตลาดทองคำต่างประเทศยังเปิดทำการซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวในกรอบ โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นไปยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณโซน 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำหากราคาทองคำยืนเหนือ 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การเปิดสถานะขายต้องชะลอออกไปก่อน ซึ่งนักลงทุนที่มีสถานะขายอยู่ต้องลดสถานะลง แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ไปได้อาจเห็นการย่อตัว โดยประเมินแนวรับที่ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้ แต่การแกว่งตัวของราคายากที่จะประเมิน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,209 (18,700บาท) 1,196 (18,500บาท) 1,187 (18,350บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,200บาท) 1,244 (19,300บาท) 1,256 (19,500บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,209 (18,870บาท) 1,196 (18,660บาท) 1,187 (18,520บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,310บาท) 1,244 (19,420บาท) 1,256 (19,600บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999