กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการ ที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งแรกปี 2561 ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดในภาคตะวันตก ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย จากการสำรวจพบว่า มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 172 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมทั้งสิ้น 24,812 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 107,430 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 122 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 6,883 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 30,934 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 38 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 17,678 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 67,991 ล้านบาท และโครงการวิลล่า12 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 251 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 8,505 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจในช่วงครึ่งแรกปี 2561 มีหน่วยเหลือขายจำนวน 6,104 หน่วย หรือร้อยละ 24.6 ของหน่วยในผังโครงการทั้งหมด โดยโครงการบ้านจัดสรรมีหน่วยเหลือขายจำนวน 2,564 หน่วย หรือร้อยละ 37.3 ของหน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด โครงการอาคารชุดมีหน่วยเหลือขายจำนวน 3,466 หน่วย หรือร้อยละ 19.6 ของหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด และโครงการวิลล่ามีหน่วยเหลือขายจำนวน 74 หน่วย หรือร้อยละ 29.5 ของหน่วยในผังโครงการวิลล่าทั้งหมด
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีจำนวน 108 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 9,470 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 46,364 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,573 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 13,207 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 78 โครงการ มีจำนวนหน่วย 4,117 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 17,963 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 1,581 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 7,369 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 21 โครงการ มีจำนวนหน่วย 5,156 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 22,076 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 925 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 3,767 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่า จำนวน 9 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 197 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 6,325 ล้านบาท หน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 67 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 2,070 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 9,273 หน่วย ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.6เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท รองลงมา ร้อยละ 29.1 เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ร้อยละ 6.6 เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ร้อยละ 6.5 เป็นบ้านแฝด อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลเขาตะเกียบขายได้ร้อยละ 63.4 มูลค่าขายได้ 1,831 ล้านบาท ทำเลเขาหินเหล็กไฟขายได้ร้อยละ 62.1 มูลค่าที่ขายได้ 3,755 ล้านบาท ทำเลหัวหินขายได้ร้อยละ 61.3 มูลค่าที่ขายได้ 519 ล้านบาท และทำเลปราณบุรีขายได้ร้อยละ 60.3 มูลค่าที่ขายได้ 1,203 ล้านบาท ตามลำดับ
ทำเลอาคารชุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลหัวหินขายได้ร้อยละ 91.6 มูลค่าขายได้ 8,837 ล้านบาท ทำเลเขาหินเหล็กไฟขายได้ร้อยละ 80.1 มูลค่าที่ขายได้ 1,176 ล้านบาท ทำเลปราณบุรีขายได้ร้อยละ 78.5 มูลค่าที่ขายได้ 1,534 ล้านบาท และทำเลเขาตะเกียบขายได้ร้อยละ 68.0 มูลค่าที่ขายได้ 6,762 ล้านบาท ตามลำดับ
โครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดเพชรบุรี มีจำนวน 64 โครงการ มีหน่วยในผังของทุกโครงการรวมกัน 15,342 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 61,067 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 3,531 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 12,496 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 44 โครงการ มีจำนวนหน่วย 2,766 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 12,972 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 983 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 3,832 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 17 โครงการ มีจำนวนหน่วย 12,522 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 45,915 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 2,541 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 8,364 ล้านบาท และมีโครงการวิลล่า จำนวน 3 โครงการ มีหน่วยในผังจำนวน 54 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 2,180 ล้านบาท หน่วยเหลือขายหรือเป็นอุปทานในตลาด 7 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ หน่วยในผังโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุดจำนวน 15,288 หน่วย ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.9เป็นอาคารชุด อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท รองลงมา ร้อยละ 11.9 เป็นบ้านเดี่ยว อยู่ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท ร้อยละ 2.9 เป็นทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่าจัดสรร
ทำเลบ้านจัดสรรในจังหวัดเพชรบุรีที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลชะอำตอนเหนือขายได้ร้อยละ 77.3 มูลค่าขายได้ 4,506 ล้านบาท ทำเลหาดเจ้าสำราญขายได้ร้อยละ 76.4 มูลค่าที่ขายได้ 273 ล้านบาท ทำเลในเมืองเพชรบุรีขายได้ร้อยละ 64.1 มูลค่าที่ขายได้ 1,174 ล้านบาท และทำเลชะอำตอนใต้ขายได้ร้อยละ 58.3 มูลค่าที่ขายได้ 3,223 ล้านบาท ตามลำดับ
ทำเลอาคารชุดในจังหวัดเพชรบุรีที่ขายดี โดยดูจากสัดส่วนที่ขายได้ต่อหน่วยทั้งหมดในโครงการ ทำเลชะอำตอนใต้ขายได้ร้อยละ 84.2 มูลค่าขายได้ 6,652 ล้านบาท ทำเลชะอำตอนเหนือขายได้ร้อยละ 79.5 มูลค่าที่ขายได้ 30,854 ล้านบาท และทำเลในเมืองเพชรบุรีขายได้ร้อยละ 47.1 มูลค่าที่ขายได้ 45 ล้านบาท ตามลำดับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0-2645-9675-6
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์