กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--โพลีพลัส พีอาร์
จุดมุ่งหมายสำคัญของการสร้างศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนขยายซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล นอกจากจะเพิ่มศักยภาพการรักษาพยาบาล และยกระดับการบริการให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงตลอดจนพื้นที่เขต 5 อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญคือ การเป็นที่ทำการเรียนการสอนแก่นักศึกษาแพทย์ สถานที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือน 'ต้นกล้า' ที่จะแผ่กิ่งก้าน สร้างร่มเงาให้ประชาชนมีความสุขตลอดไป เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์ ในฐานะผู้นำค้าปลีกพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย หนึ่งในพันธมิตรหลักภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือ กับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญร่วมเป็นหนึ่งความภูมิใจ ในการพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนต่อขยาย กับโครงการ "20 บาท เพื่อศิริราช-กาญจนา" เพื่อขยายโอกาสการรักษาให้เข้าถึงประชาชน และเพิ่มโอกาสการฝึกฝนให้นักศึกษาแพทย์ ผ่าน 4 ช่องทางบริจาค ได้แก่ ผ่านบาร์โค้ด เริ่มต้น 20 บาทที่จุดแคชเชียร์, กล่องบริจาค ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า, บริจาคผ่านคะแนน The1 จำนวน 160 คะแนน เท่ากับ 20 บาท และสแกน QR code ผ่าน Mobile Banking ตั้งแต่วันนี้ – 30 เม.ย. 62 ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ ออนไลน์และ เซกาเฟรโด ทุกสาขาทั่วประเทศ
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2549 เป็นโรงพยาบาลหนึ่งภายใต้สังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล และในปี 2560 ได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งมียุทธศาตร์ในการรองรับและขยายการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบในเขต 5 จำนวน 8 จังหวัด คือ ราชบุรี, สุพรรณบุรี, นครปฐม, กาญจนบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งยังเป็นที่ทำการเรียนการสอนแก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 – 6 ระดับปริญญาตรี เนื่องจากคนไข้ที่มารักษามีอาการเจ็บไข้ทั่วไปขั้นพื้นฐาน เหมาะแก่การเรียนรู้ศึกษาวิธีรักษาขั้นพื้นฐานที่นักศึกษาแพทย์ควรทราบ ต่างจากคนไข้ที่ศิริราชที่ส่วนใหญ่จะเป็นโรคซับซ้อน รุนแรง
มร.อลิสเตอร์ เทย์เลอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เผยว่า "พันธกิจหลักที่บริษัทยึดมั่น และถือมั่นมาโดยตลอดคือ การได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม และร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ควรได้รับ ซึ่งศิริราชพยาบาล เปรียบเสมือนดั่งความหวังของประชาชนทั่วประเทศที่หลั่งไหลเข้ามารับการรักษาอย่างไม่ขาดสาย และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียม ทางบริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงพันธกิจที่ตรงกัน และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการดีๆ ของศิริราชมาโดยตลอด ล่าสุดกับโครงการ "20 บาท เพื่อศิริราช-กาญจนา จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยและผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมเป็นหนึ่งความภูมิใจ ในการพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุนเริ่มต้น 20 บาทเพื่อขยายโอกาสการรักษาให้เข้าถึงประชาชน ซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ตลอดจนเพิ่มโอกาสการฝึกฝนให้นักศึกษาแพทย์ได้มีพื้นที่การลงสนาม เพื่อเรียนรู้จากเหตุการณ์จริง"
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า "ศิริราชมีความมุ่งมั่นหาแนวทางในการรักษาผู้ป่วยจำนวนมากท่ามกลางทรัพยากรที่มีจำกัด ทั้งเรื่องสถานที่ บุคลากร และอุปกรณ์ทางการ แพทย์ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาได้ทั่วถึงมากขึ้น จึงได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการเชิงรุก เพิ่มศักยภาพศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกในการรักษาพยาบาล โดยมีศิริราชในฐานะรุ่นพี่ ให้การสนับสนุนด้านวิชาการ เชื่อมโยงองค์ความรู้ และฝึกฝนอบรมต่อยอดวิชาชีพแก่กัน ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงตลอดจนพื้นที่เขตที่ 5 ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาระบบเครือข่ายและการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งนอกจากเป็นการขยายโอกาสการรักษาไปสู่ประชาชน ยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่ฝึกฝนให้นักศึกษาแพทย์และแพทย์ได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติ เพื่อดูแลประชาชนอย่างเชี่ยวชาญ โดยมีบุคลากรศิริราชให้คำปรึกษาและร่วมวางแผนการดำเนินงานเพื่อก้าวต่อไปในอนาคต"
รศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กล่าวว่า "เราจะพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุด โดยประชากรในพื้นที่ใกล้เคียงสามารถรับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ศูนย์การแพทย์ โดยไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้จึงมีการพัฒนาอาคารส่วนขยาย ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทางที่ไม่ซับซ้อนในเขตพื้นที่นี้ได้มากขึ้นกว่าเดิม จากปกติมีเพียง 60 เตียง วางแผนจะเพิ่มเป็น 200 เตียง เพื่อดูแลผู้ป่วยในและผู้ป่วยหนักในห้องไอซียูได้มากขึ้น โดยที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยรับการบริการ 350,000 คนต่อปี หลังจากก่อสร้างเสร็จ สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 700,000 คนต่อปี ซึ่งต้องใช้งบประมาณการก่อสร้างและจัดหาครุภัณฑ์ทั้งหมด 850 ล้านบาท โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ่งจากภาครัฐ และอีกส่วนหนึ่งทางศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกจะต้องระดมทุนเพิ่มเติม จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้น เมื่อแล้วเสร็จก็จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่เรียนรู้และฝึกประสบการณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลได้อีกด้วย ขอขอบคุณทาง ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ที่เข้ามาร่วมโครงการนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะช่วยให้เราระดมทุนได้เร็วขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะก่อให้เกิดสิ่งดีๆ แก่สังคมจากนี้และต่อๆ ไป"
ถ้าเปรียบโรงพยาบาลศิริราชคือ ต้นไม้ที่ยืนหยัดอยู่คู่กับคนไทยมา 130 ปี "ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก" จ.นครปฐม ที่ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลก็คือ ต้นกล้าต้นเล็กๆ ที่กำลังค่อยๆ เติบโตเพื่อร่วมกับศิริราชทำหน้าที่ดูแลคนไทยให้ทั่วถึงและครอบคลุมมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะรองรับประชาชนในเขตปริมณฑลและภาคใต้ตอนบนได้มากยิ่งขึ้น การพัฒนาอาคารส่วนขยายระยะที่ 2 ของศิริราช-กาญจนา หรือศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ถนนบรมราชนนนี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม แห่งนี้ จะทำให้ประชาชนอีกจำนวนมากได้เข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น
ขอเชิญร่วมเป็นหนึ่งความภูมิใจ ในการพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กับโครงการ "20 บาท เพื่อศิริราช-กาญจนา" ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุน ผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านบาร์โค้ดเริ่มต้น 20 บาท ที่จุดแคชเชียร์, กล่องบริจาค ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า, บริจาคผ่านคะแนน The1 จำนวน 160 คะแนน เท่ากับ 20 บาท และสแกน QR code ผ่าน Mobile Banking ตั้งแต่วันนี้- 30 เม.ย. 62 ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ซูเปอร์คุ้ม, ท็อปส์ ออนไลน์ และ เซกาเฟรโด ทุกสาขาทั่วประเทศ