กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันที่ 12-15 ธ.ค. 2561 ตนพร้อมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จะเดินทางไปร่วมเจรจาความร่วมมือด้านสื่อบันเทิงในระดับทวิภาคีตามแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นไปตามนโยบายการขับเคลื่อนของรัฐบาลไทยภายใต้คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ผ่านกลไกลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ให้ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย เชื่อมโยงประชาคมโลก
ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนงานส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ ประสานหน่วยงานบูรณาการเร่งเดินหน้าส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศจีน โดยความร่วมมือครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริมความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างยั่งยืนผ่านสื่อบันเทิง ดังนี้ 1. วันที่ 12 ธ.ค.2561 วธ.ร่วมหารือและรับรองเครือข่ายด้านภาพยนตร์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ผู้แทนกรมภาพยนตร์ China Film Foundation/China Film Group และผู้บริหารบริษัท Salon Flims/Salon Lap 2. วันที่ 13 ธ.ค. 2561 การหารือร่วมกับผู้บริหารเขตบริหารการค้าเสรีทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง และการหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัท China Film Group Corporation 3.วันที่ 14 ธ.ค.2561 การหารือร่วมกับผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CCTV) 4.วันที่ 15 ธ.ค. 2561 การหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัท iQiYi จำกัด และหารือร่วมกับผู้บริหาร Newtiming จำกัด
"ภาพรวมของการเจรจาความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นไปตามมติของคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติและแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นการนำร่องสร้างกลุ่มผู้ชมภาพยนตร์ชาวจีนผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ และการนำภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมจัดฉายเผยแพร่ในเทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติต่างๆในประเทศจีน โดยเน้นการใช้บุคลากรในวงการภาพยนตร์ของไทย อาทิ นักแสดง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ของไทยในการบุกตลาดภาพยนตร์ของประเทศจีน เป็นต้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รวมทั้งประสานให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้านวัฒนธรรมของไทยและจีน"ปลัด วธ. กล่าว