กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
กลุ่มนมแม่ จัดงาน “จากแม่สู่แม่...ช่วยเด็กไทยได้กินนมแม่” โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพของคุณแม่อาสา และอาสาสมัครนมแม่ ให้สามารถช่วยแนะนำคุณแม่รุ่นใหม่ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จอย่างถูกวิธี ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ โดยมีกลุ่มแม่อาสาและผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานกว่า 300 คน
ภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากคุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ ทั้งจากกรุงเทพฯ , จันทบุรี และอุตรดิตถ์ ที่เข้าร่วมงาน โดยมีแพทย์หญิงสุวิมล ชีวมงคล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มนมแม่เป็นผู้ดำเนินรายการและร่วมเสวนาในครั้งนี้ โดยแพทย์หญิงสุวิมล กล่าวว่า “อาสาสมัครกลุ่มนมแม่หรือคุณแม่อาสาเป็นกำลังสำคัญ เป็นกำลังใจ และแหล่งความรู้ทั้งทางทฤษฎีและโดยเฉพาะประสบการณ์ที่เป็นประสบการณ์โดยตรงจากคุณแม่ที่นำมาแลกเปลี่ยนกันเป็นตัวอย่าง ซึ่งจะทำให้แม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือเพิ่งคลอดมีกำลังใจและสามารถให้นมแม่ได้จนถึง 6 เดือน และจากการสำรวจแม่ไทยจำนวน 1,727 คน จาก 14 จังหวัด โดยกลุ่มนมแม่ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2548 พบว่า ร้อยละ 95 ของแม่ไทยที่มีลูกอายุไม่เกิน 2 ปี ต่างเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แต่ยังไม่ประสพความสำเร็จในการให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ตามข้อแนะนำขององค์การยูนิเซฟ มีเพียง 1.3 % จากกลุ่มแม่ที่มีลูกอายุมากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปีที่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ทั้งนี้เนื่องมาจากการที่แม่ต้องทำงาน แม่มีน้ำนมไม่พอและแม่ไม่ได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับการให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียวโดยไม่ให้น้ำหรืออาหารอื่นแก่ลูกก่อนอายุ 6 เดือน แม่อาสาจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการให้กำลังใจและให้คำแนะนำ ซึ่ง มิใช่เพียงแม่อาสาเท่านั้นแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็จะต้องร่วมมือกันในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งทาง ”กลุ่มนมแม่” ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกในประเทศไทยที่เกิดจากการร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่เล็งเห็นความสำคัญของการให้นมแม่” ในการเสวนาครั้งนี้มีตัวแทนจากจังหวัดจันทบุรี, จังหวัดอุตรดิตถ์ และตัวแทนจากโรงงานฟูจิกุระ กรุงเทพฯ โดย วาสนา งามการ ประธานคณะกรรมการกลุ่มนมแม่ โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี ตัวแทนจากจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า “การสร้างเครือข่ายของจังหวัดจันทบุรีเพิ่งได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2547 ทีโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ซึ่งเป็นการเลียนแบบการสร้างเครือข่ายกลุ่มนมแม่ โดยดำเนินการตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ให้คำแนะนำจนกระทั่งเยี่ยมบ้านหลังคลอด และมีคลินิกปรึกษาปัญหานมแม่ ซึ่งมีกลยุทธ์ในการสร้างเครือข่ายคุณแม่อาสา 3 วิธี ได้แก่สร้างบุคลากรในโรงพยาบาลให้เป็นตัวอย่างกับผู้อื่น ให้คำแนะนำกับคนใกล้ชิด และเมื่อสำเร็จก็จะเข้ากลุ่มด้วยความสมัครใจ วิธีสุดท้ายจะเริ่มที่คลินิกปรึกษาปัญหานมแม่ เมื่อแม่ให้นมลูกแล้วเห็นลูกมีสุขภาพดี มีความสุข ความรู้สึกแบบนี้ก็อยากจะแบ่งปันให้คุณแม่คนอื่น และสิ่งที่กลุ่มตั้งใจจะทำต่อไปในอนาคตคือ การสร้างเครือข่ายให้มีทุกๆ ตำบล และอำเภอ โดยการเพิ่มพูนทักษะในการแก้ปัญหาเรียนรู้ การแนะนำจากโรงพยาบาล มีกิจกรรมต่อเนื่องและการให้กำลังใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ด้าน แพทย์หญิงวาสนา วินัยพานิช อาสาสมัครชมรมดวงใจพ่อแม่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กล่าวว่า “กลุ่มนมแม่ของเรา เริ่มจากงานประจำในโรงพยาบาล ในแผนกผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤต โดยเน้นการส่งเสริมให้ลูกที่ป่วยได้รับนมแม่ให้ครบทุกขั้นตอน เพราะต้องการให้เด็กที่เกิดมาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ต้องยอมรับว่ากระแสการรณรงค์ของกลุ่มนมแม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและแพร่หลายจากกรุงเทพไปสู่ชุมชนในหลายจังหวัด เป้าหมายการทำงานของเราเริ่มจากกลุ่มคุณแม่คนไข้ในชมรมดวงใจพ่อแม่ขยายไปสู่กลุ่มแม่ในชุมชนต่างๆ ที่มีใจรักอยากทำงานนี้ ซึ่งขณะนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคือ แม่อาสากลุ่มนมแม่บ้านท่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอลับแล ส่วนอีก 2 หน่วยงานอยู่ระหว่างการก่อตั้งคือกลุ่มแม่อาสา โรงพยาบาลพิชัย และโรงพยาบาลทองแสนขัน ปัญหาอุปสรรคในการทำงานคือความหลากหลายทางอาชีพของคุณแม่ เศรษฐกิจและการเดินทางที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรวมกลุ่มกัน อยากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งด้านวิทยากรและเงินทุน”
สำหรับโรงงานฟูจิกุระโดย สุนี ลิมป์ธีระกุล ตัวแทนได้กล่าวว่า “โดยส่วนมากพนักงานเป็นผู้หญิงและมีความรู้ในระดับมัธยมศึกษา จึงมีความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในเรื่องมะเร็งปากมดลูก หน้าอก และทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็ได้แนะนำกลุ่มนมแม่ ซึ่งหลังจากได้ฟังแล้วก็ประทับใจมาก เกิดความคิดที่จะจัดมุมให้นมแม่และทำจนสำเร็จ มีพนักงานในโรงงานใช้บริการจำนวนมาก และได้เริ่มโครงการคุณแม่อาสาด้วย”
ฝ่าย วิสา เบ็ญจะมโน ตัวแทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้กล่าวว่า “นมแม่ให้ด้านการเจริญเติบโตของทางกายและใจ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความอบอุ่นจากแม่สู่ลูก เด็กจะได้รับพลังชีวิตจากน้ำนมแม่ กลุ่มนมแม่เป็นกลุ่มที่จุดประกายการถ่ายทอดประสบการณ์ ทำให้มีการรวมตัวขึ้นซึ่งมีพลังมาก จึงถือว่าเป็นพลังสังคมอันสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากการได้รับความรักที่อิ่มเต็มอันเป็นรากฐานที่จะทำให้คนเป็นคนดี”
จากจุดมุ่งหมายที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกผู้ซึ่งเป็นที่รักทำให้พลังเล็กๆ ของแม่และแม่อาสาทุกคนกลายเป็นพลังสังคมที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างพลังชีวิตให้แก่เด็กไทยที่จะได้รับนมแม่อย่างถูกต้องและสำเร็จ เพื่อที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศให้ดีต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, นวลพรรณ
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--