กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) แจงกองทุนประกันสังคมเฉพาะกรณีชราภาพ ที่สะสมไว้เตรียมจ่ายสิทธิประโยชน์บำนาญชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 9.18% เผยมีแผนจะทยอยลงทุนในต่างประเทศกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 กองทุนประกันสังคมมีเงินลงทุนรวม 499,912 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา กองทุน ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจำนวน 21,109 ล้านบาท (สูงกว่าปีก่อนซึ่งได้ผลตอบแทนจำนวน 17,346 ล้านบาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8.71% (สูงกว่าปีก่อนซึ่งได้ผลตอบแทน 5.04%) ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากภาวะตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่เอื้ออำนวย การรักษาวินัยการลงทุนอย่างเคร่งครัด และการกระจายการลงทุนให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคมเฉพาะกรณีชราภาพ ซึ่งมีเงินลงทุนประมาณ 400,000 ล้านบาทและจัดเป็นเงินออมของผู้ประกันตนจำนวน 9 ล้านคนที่ สปส. สะสมไว้เตรียมจ่ายสิทธิประโยชน์บำนาญชราภาพนั้น ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 9.18% โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทุนกรณีชราภาพได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า สปส. ในฐานะนักลงทุนสถาบันสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าที่ผู้ประกันตนนำเงินไปออมเองด้วยการฝากธนาคาร
การที่กองทุนมีผลตอบแทนมากขึ้นทำให้สามารถทยอยปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนได้มากขึ้น โดยล่าสุด สปส. ได้ปรับเพิ่มค่าทำศพ จาก 30,000 บาทเป็น 40,000 บาท ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการทางแพทย์ ทำให้ขณะนี้ สปส. มีค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลในอัตราเฉลี่ย 2,194.21 บาทต่อผู้ประกันตนหนึ่งคนต่อปี และปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญ ซึ่งจะทำให้ท่านผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินบำนาญมากขึ้นเมื่อเกษียณ
สำหรับแผนการลงทุนปี 2551 ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการประกันสังคมนั้น คาดว่าในปีนี้สปส. จะจัดเก็บเงินสมทบได้ประมาณ 108,000 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายสิทธิประโยชน์และค่าใช้จ่ายบริหารประมาณ 43,000 ล้านบาท ทำให้มีเงินคงเหลือนำไปลงทุนประมาณ 65,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินที่ออมไว้รอจ่ายเป็นบำนาญชราภาพในอนาคต โดยแผนการลงทุนเงินจำนวนดังกล่าวนั้น สปส. ยังคงเน้นการกระจายลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน หุ้นสามัญ หลักทรัพย์ต่างประเทศ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยจะลงทุนเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยง
ในส่วนของการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้น สปส. มีแผนจะทยอยลงทุนวงเงินที่ได้รับอนุมัติแล้วจากธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการประกันสังคมเมื่อปีที่แล้วจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) โดยจำกัดการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้เอกชนต่างประเทศที่มีความมั่นคงสูง มีอันดับเครดิต BBB ขึ้นไป และมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเคร่งครัด คาดว่าหากลงทุนได้ตามแผน กองทุนจะมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 2.5% ในปัจจุบันเป็น 5.5%
หากผู้ประกันตนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th