กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล
สภาวะตลาดวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,243.60-1,246.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,380 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,390 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.07 น. ของวันที่ 13/12/61)
แนวโน้มวันที่ 14 ธันวาคม 2561
ท่ามกลางสัญญาณความก้าวหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกชัดเจนมากขึ้น เมื่อสื่อมวลชนรายงานว่าบริษัทของทางการจีนซื้อถั่วเหลืองสหรัฐกว่า 1.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นการซื้อถั่วเหลืองสหรัฐชุดใหญ่ครั้งแรกในรอบกว่า 6 เดือน นอกจากนี้จีนจะชะลอแผนผลักดันการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูงที่ได้รับการขนานนามว่า "Made in China 2025" ซึ่งสร้างความขุ่นเคืองแก่สหรัฐเกี่ยวกับสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา แนวโน้มดังกล่าว เป็นสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเตรียดทางการค้าระหว่างสองฝ่าย แม้ว่าประเด็นนี้จะกระตุ้นแรงขายดอลลาร์และสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ แต่ประเด็นอังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิทยังคงมีความผัวผวน แม้ว่านายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษได้รับชัยชนะในการลงมติไม่ไว้วางใจต่อความเป็นผู้นำของเธอที่ซื้อเวลาให้กับเธอมากขึ้นในการพยายามผลักดันข้อตกลงเบร็กซิท ท่ามกลางความผันผวนทั้งหมดคือ การลงมติเบร็กซิทรอบ 2 เพื่อตรวจสอบว่า สาธารณชนอังกฤษยังคงสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนต่อไปอังกฤษอาจจะหันหลังกลับและอยู่ใน EU ต่อไป นอกจากนี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global แสดงความกังวลว่าอันดับเครดิตที่ AA ของอังกฤษอาจได้รับผลกระทบ หากอังกฤษถอนตัวจาก EU โดยปราศจากข้อตกลง ขณะที่อังกฤษมีกำหนดถอนตัวจาก EU ในวันที่ 29 มี.ค. พรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาเปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลง หรือแม้แต่การลงประชามติอีกครั้งในประเด็นการเป็นสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU สำหรับนักลงทุนยังคงเน้นเข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ราคาทองคำจะเผชิญแนวต้านถัดไปที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับราคาทองคำพยายามทรงตัวในระดับสูงและทดสอบกรอบราคาด้านบนเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ระยะสั้นคาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามพยุงราคา โดยอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองเพื่อสะสมเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,236-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง หรือตั้งจุดตัดขาดทุนเมื่อราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,233 (19,050บาท) 1,221 (18,850บาท) 1,212 (18,700บาท)
แนวต้าน 1,256 (19,400บาท) 1,266 (19,550บาท) 1,278 (19,750บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,233 (19,180บาท) 1,221 (18,990บาท) 1,212 (18,850บาท)
แนวต้าน 1,256 (19,540บาท) 1,266 (19,690บาท) 1,278 (19,880บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999