กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
เพิ่งผ่านพ้นไปกับกิจกรรมเฟ้นหาดาวเดือนของ มรภ.สงขลา หลังประกาศชื่อผู้ชนะ "ชัชพล มุสิกวงศ์" หมายเลข M 1 กองเชียร์ฝั่งคณะครุศาสตร์ก็เฮลั่นหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ โดยเฉพาะเสียงจากรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่โห่ร้องด้วยความยินดีกับรางวัลเดือนมหาวิทยาลัยปีแรกของเอกภาษาไทย
ชัชพล มุสิกวงศ์ หรือ "ชัช" นักศึกษาชั้นปีที่ 1 โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) หรือเดือนมหาวิทยาลัยผู้ไม่เคยคิดฝันถึงตำแหน่งนี้มาก่อน หลังได้รับคัดเลือกจากรุ่นพี่และเพื่อนๆ ในเอกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวด เพราะบุคลิกท่วงท่าการเดินบวกกับความเฉียบคมในการตอบคำถาม ทำให้กลายเป็นผู้เข้าประกวดคนหนึ่งที่โดดเด่นท่ามกลางดาวเดือนคนอื่นๆบนเวที ส่งสู่ตำแหน่งเดือนคณะครุศาสตร์ และเดือนมหาวิทยาลัยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
แม้ระหว่างทางจะล้มลุกคลุกคลาน ขาดความมั่นใจไปบ้าง แต่ก็ชนะความกลัวในหัวใจตัวเองได้ทุกครั้ง ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ทุกกิจกรรม เพียงอยากเห็นรอยยิ้มของพี่และเพื่อนๆ ในเอก ที่สำคัญคือไม่ทิ้งการเรียน สามารถคว้าเกรดเฉลี่ย 3.41 ไปฝากที่บ้านได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมคือ การนำความรู้ในฐานะนักศึกษาโปรแกรมวิชาภาษาไทยไปใช้ในกิจกรรมจิตอาสา สร้างสื่อความรู้ภาษาไทยในรูปแบบหนังสือนิทานให้กับน้องๆ ในโรงเรียน
ชัชพล เล่าว่า ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยไม่ใช่ได้มาจากหน้าตาและบุคลิกเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือทัศนคติมุมมองความคิด และการนำสิ่งที่มีมาประยุกต์ให้เข้ากับกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการนำความรู้ภาษาไทยที่มีและเป็นสิ่งที่ถนัดมาปรับเชื่อมโยงกับโจทย์ที่ได้รับมา อย่างกิจกรรมจิตอาสาตนทำสื่อให้ความรู้เกี่ยวกับหลักภาษาไทยในรูปแบบของหนังสือนิทาน นำไปมอบให้น้องๆ ระดับประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียน เพราะมีความรู้สึกว่าการศึกษาในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนไปมาก เราต้องตามให้ทันยุคสมัยและนำเด็กออกห่างเทคโนโลยีบ้าง จึงคิดถึงการปลูกฝังเรื่องการอ่าน เนื่องจากการอ่านหนังสือสามารถช่วยพัฒนาต่อยอดความคิดได้มากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ
"เด็กหลายคนคงเบื่อวิชาภาษาไทย เพราะมีเนื้อหาที่ต้องอาศัยหลักการจำ ผมจึงนำความรู้ทางวิชาการไปปรับเป็นรูปแบบที่ทำให้เข้าใจง่ายและสนุกไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้เด็กๆ ซึมซับและจดจำได้มากกว่า เพราะผ่านการคิดวิเคราะห์และฝึกฝนหลายขั้น ตั้งแต่การฝึกสะกดคำที่ต้องแปลสัญลักษณ์จากตัวอักษรให้กลายเป็นภาพ การฝึกจินตนาการตามเรื่องราวในนิทาน นี่ถือเป็นการฝึกพัฒนาการสมองอย่างเหมาะสมกับช่วงวัยของเขา"
นอกจากทำสื่อนิทานแล้ว เขายังนำเอาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์เชื่อมโยง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผู้ที่เรียนทางภาษาไทย โดยเฉพาะตอนตอบคำถามบนเวทีจำได้ว่าตอนแรกรู้สึกตื่นเต้นและสับสนมาก แต่เมื่อตั้งสติได้ก็เริ่มทบทวนจับประเด็นที่กรรมการอยากรู้ และนำความสามารถด้านการวิเคราะห์มาใช้ในการตีโจทย์ ก่อนตอบไปอย่างมั่นใจ ส่วนการแสดงบนเวทีเขาเลือกใช้ความสามารถด้านการเป่าขลุ่ย ซึ่งมีพื้นฐานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รู้สึกกดดันนิดหน่อยที่ต้องร้องเพลงประกอบด้วย ยอมรับว่าเหนื่อยและหนักมากในเรื่องนี้เพราะไม่เคยหัดร้องเพลงมาก่อน ด้วยการตั้งใจและได้รับกำลังใจดีๆมาจากคนรอบข้าง และส่วนสำคัญคือพลังใจมาจากครอบครัวที่ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ชัชพลเล่าเพิ่มเติม
ด้าน วันดี มุสิกวงศ์ หรือ "แม่ดี" คุณแม่ของ ชัชพล เดือน มรภ.สงขลา กล่าวด้วยความรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายว่า ชัชเป็นพี่ชายคนโต มีน้องชายอีก 3 คน ที่บ้านเลี้ยงดูมาแบบเข้มงวดแต่ใส่ใจ และให้เขารับผิดชอบตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะแม่มีภาระต้องเลี้ยงน้องด้วย เรื่องการเรียนชัชเป็นคนขยันตั้งใจมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม และไม่เคยเกเรออกนอกลู่นอกทางเลย เมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยทั้งพ่อและแม่ก็ตั้งใจให้เรียนครูภาษาไทยตามที่ลูกชอบ และอยากให้จบออกมาเป็นครูที่ดี จึงผลักดันให้เขาเต็มที่กับทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและการเข้าร่วมกิจกรรม ตอนที่ทราบว่าชัชจะประกวดเดือนแม่ก็สนับสนุน เพราะอยากให้ใช้ความสามารถและเป็นคนกล้าแสดงออก ในช่วงระหว่างทำกิจกรรมกองประกวดก็คอยพูดคุยให้กำลังใจตลอด เมื่อผลประกาศออกมาว่าลูกได้เป็นเดือนประจำมหาวิทยาลัยจึงรู้สึกดีใจมาก เพราะนี่คือก้าวหนึ่งของเขาที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบ ซึ่งสำคัญมากกว่าผลแพ้ชนะที่ได้มา
คุณแม่ยังฝากข้อคิดดีๆว่า ความรักความใส่ในกันภายในครอบครัว จะเป็นสิ่งที่คอยหล่อหลอมให้ลูกเติบโตขึ้นมากลายเป็นคนตามที่ผู้ใหญ่ปั้นไว้ ที่บ้านของเราแม่จะคอยหากิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันเรียกว่ารวมพลไปไหนไปด้วยทั้งบ้าน และให้ความสำคัญกับทุกวันของเขา ซึ่งชัชเข้าใจถึงความรักและความห่วงใยจากพ่อแม่ จึงไม่เคยทำตัวให้ต้องผิดหวังและเป็นลูกที่สร้างแต่ความภาคภูมิใจแก่ครอบครัวมาตลอด
คุณสมบัติของเดือนประจำ มรภ.สงขลา นอกจากบุคลิกหน้าตาดีแล้ว ทัศนคติรวมถึงความสามารถต้องชัดด้วย ชัชพล มุกสิกวงศ์ จึงคว้าตำแหน่งนี้ไปโดยไม่ค้านสายตากองเชียร์ อีกทั้งยังได้ใจแม่ยกไปเต็มร้อย ซึ่งอีกไม่นานเราคงได้เห็นเขาในบทบาทครูภาษาไทยที่ดี ตามที่ตัวเขาและครอบครัวตั้งเป้าไว้