กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
เตรียมปล่อยพลังเมกเกอร์ในตัวคุณกับงาน "Maker Faire Bangkok 2019" มหกรรมแสดงผลงานและสิ่งประดิษฐ์ของเหล่าสุดยอดเมกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องพร้อมผลักดันประเทศไทยสู่เมกเกอร์เนชั่นแบบเต็มตัว
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกลุ่มเมกเกอร์ในประเทศไทย สานต่อความสำเร็จงาน Maker Faire สู่ปีที่ 4 เตรียมจัดงาน "Maker Faire Bangkok 2019: WE ARE ALL MAKERS ปล่อยพลังเมกเกอร์ในตัวคุณ" มหกรรมแสดงผลงานของสุดยอดเมกเกอร์ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปกล้าคิดกล้าประดิษฐ์ สร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ๆ ตามแนวทางของตัวเอง พร้อมนำพาประเทศไทยสู่การเป็น "เมกเกอร์เนชั่น" หรือประเทศแห่งนักพัฒนาที่มีความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ระดมพลสุดยอดเมกเกอร์ชาวไทยและต่างประเทศร่วมแสดงผลงานเต็มพื้นที่กว่า 70 บูธ พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปที่จะช่วยจุดประกายและถ่ายทอดวัฒนธรรมเมกเกอร์ ระหว่างวันที่ 19 – 20 มกราคม 2562 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เข้าชมฟรีตลอดงาน!
นางกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า "การนำประเทศสู่ยุค 'ไทยแลนด์ 4.0' อย่างมั่นคงนั้น เมกเกอร์ หรือ นักสร้างสรรค์นวัตกรรม นับเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ เพราะเมกเกอร์จะนำไปสู่การสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ สวทช. จึงได้ร่วมมือกับเชฟรอนประเทศไทย จัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเมกเกอร์ในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดงานเมกเกอร์แฟร์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และโครงการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของเมกเกอร์เยาวชน Enjoy Science Young Makers Contest เพื่อส่งเสริมให้วัฒนธรรมเมกเกอร์มีการแพร่หลายในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย อันนำมาซึ่งความแข็งแกร่งของกลุ่มเมกเกอร์ในไทยและเติบโตขึ้นเป็น 'เมกเกอร์เนชั่น' หรือเมืองแห่งนักพัฒนาตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าด้วยความเลิศล้ำทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั่นเอง"
ทางด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้กล่าวว่า "เชฟรอนประเทศไทยเชื่อมั่นว่า 'พลังคน' เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน เราจึงดำเนินโครงการส่งเสริมการศึกษาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในสาขาสะเต็มทั้งในและนอกห้องเรียน รวมถึงการจัดงาน Maker Faire Bangkok และการประกวด Enjoy Science Young Makers Contest ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการ 'Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต' เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเกิดความสนใจในวัฒนธรรมเมกเกอร์ ได้เห็นว่าใครๆ ก็เป็นเมกเกอร์ได้ขอเพียงแค่ลงมือประดิษฐ์ เกิดแรงบันดาลใจที่จะคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ การจัดงาน Maker Faire สามครั้งที่ผ่านมา เราพบว่าเยาวชนและบุคคลทั่วไปให้ความสนใจในวัฒนธรรมเมกเกอร์เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในงาน Maker Faire Bangkok 2018 ที่มีผู้มาร่วมงานสูงถึง 10,000 คน โดยเป็นผู้เข้าร่วมงานครั้งแรกถึงร้อยละ 77 นอกจากนั้น ผู้เข้าชมงานร้อยละ 97.12 สนใจที่จะเข้าร่วมงานเมกเกอร์แฟร์อีก แสดงให้เห็นถึงว่าวัฒนธรรมเมกเกอร์เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นและมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เชฟรอน จึงร่วมกับ สวทช. และพันธมิตร จัดงาน Maker Faire Bangkok 2019 เพื่อให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปได้ทำความรู้จักกับวัฒนธรรมเมกเกอร์ ได้ลงมือทำโดยมีเมกเกอร์ตัวจริงคอยให้คำแนะนำ เกิดแรงบันดาลใจและความสนใจในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ต่อไป นอกจากนั้นมหกรรมนี้ยังช่วยสนับสนุนนโยบาย 'วิทย์สร้างคน' ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มต่อไปในอนาคต"
นายธณพล กิจมุติ วิศวกรคอมพิวเตอร์ และเมกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมเกมส์คอมพิวเตอร์ กล่าวถึงการเติบโตของวัฒนธรรมเมกเกอร์ในประเทศไทยว่า "จากประสบการณ์ที่ได้มาจากการเดินทางไปร่วมงานเมกเกอร์แฟร์ในหลายๆ ประเทศ แม้ว่าจะมีความแตกต่างในเชิงผลงานของเมกเกอร์ที่มีความหลากหลายกันออกไป สามารถสัมผัสได้ว่าเมกเกอร์ในแต่ละประเทศจะมีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือ การให้ความสนใจในวัฒนธรรมเมกเกอร์ที่เริ่มต้นกันตั้งแต่ระดับเยาวชน ในต่างประเทศ เมกเกอร์รุ่นเยาว์จะมีความกระตือรือร้นในการศึกษาหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะจากการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีการค้นคว้าในสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ พวกเขาจึงมีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาและต่อยอดการสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้นออกไปเรื่อยๆ ทำให้วัฒนธรรมเมกเกอร์ในต่างประเทศนั้นมีความแข็งแกร่งกันตั้งแต่ในระดับรากฐาน ผมจึงเชื่อว่า หากเยาวชนในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเหมาะสม มีพื้นที่ให้พวกเขาได้แสดงออก แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดวัฒนธรรมเมกเกอร์ผ่านการจัดแสดงหรือการแข่งขันกันสร้างสรรค์ผลงานและสิ่งประดิษฐ์ สังคมเมกเกอร์ในประเทศไทยก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถยกระดับขึ้นมาเป็น 'เมืองแห่งนักพัฒนา' เช่นเดียวกับในต่างประเทศได้อย่างแน่นอน"
ส่วนทางด้าน นายนิมิตร หงษ์ยิ้ม เมกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการคราฟท์เหล็ก ผู้มีประสบการณ์ในวงการเมกเกอร์ของสหรัฐอเมริกากว่า 14 ปี ได้กล่าวถึงการเติบโตของวัฒนธรรมเมกเกอร์ในต่างประเทศว่า "สำหรับวงการของเมกเกอร์ของประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศสหรัฐอเมริกานั้น จะมีการปลูกฝังวัฒนธรรมเมกเกอร์แบบค่อยเป็นค่อยไปกันตั้งแต่ในระดับโรงเรียน ทั้งผ่านการเรียนการสอนด้วยการทำสิ่งของแบบ DIY ง่ายๆ ไปจนถึงการประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ในหลายๆ ด้าน ที่ทำให้เมกเกอร์เหล่านี้ได้เรียนรู้ว่าผลงานที่ทำออกมานั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผลงานในเชิงอิเล็กทรอนิกส์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงนวัตกรรมทางการเกษตรหรือผลงานศิลปะชั้นสูงด้วยเช่นกัน โดยการปลูกฝังแบบนี้นอกจากจะทำให้เยาวชนได้มีองค์ความรู้ติดตัวไปใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้ว ยังทำให้พวกเขาค้นพบตัวตนของตัวเอง ได้เรียนรู้ว่ามีความถนัด ความชอบของตน รวมถึงแนวทางอาชีพในอนาคตข้างหน้า เมื่อรวมกับอุปนิสัยที่กล้าแสดงออกและกระตือรือล้นที่จะนำเสนอผลงานตามเวทีประกวดต่างๆ ก็ยิ่งทำให้วงการเมกเกอร์ของอเมริกามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาในวงการเมกเกอร์เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมเมกเกอร์และสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง"
งาน Maker Faire Bangkok 2019: WE ARE ALL MAKERS ปล่อยพลังเมกเกอร์ในตัวคุณ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 มกราคม 2562 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา โดยจะมีการยกขบวนสุดยอดสิ่งประดิษฐ์จากไอเดียความคิดของเหล่าเมกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ สิ่งประดิษฐ์ฝีมือเมกเกอร์สาวๆ ผลงานศิลปะหลากหลายสไตล์เมกเกอร์ วาไรตี้หุ่นยนต์ มหกรรมรถไฟฟ้าสร้างเองได้ ตลอดจนถึงขบวนอิเลคทริคพาเหรดไปที่เลื่องลือไปทั่วโลก และกิจกรรมเวิร์กช็อปอีกมากมายที่จะทำให้ผู้ร่วมงานทุกท่านได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมเมกเกอร์ พร้อมจุดประกายการเรียนรู้ที่จะเป็นเมกเกอร์อย่างเต็มตัวเพื่อสร้างสรรค์ผลงานตามสไตล์ของตัวเองในอนาคต นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการรณรงค์ลดการใช้วัสดุพลาสติกและกระดาษ การผลิตสิ่งของเครื่องใช้ภายในงานที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดแสดงผลงานในลานกว้างเพื่อใช้พลังงานแสงจากธรรมชาติ อันนำมาซึ่งการลดการใช้ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีการจัดแสดงผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของโครงการ Enjoy Science: Young Makers Contest ปีที่ 3 ทั้งในระดับนักศึกษาสายสามัญและอาชีวศึกษา พร้อมประกาศผลและมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศอีกด้วย
ดูรายละเอียดและเงื่อนไขของกิจกรรมเวิร์กช็อปเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokmakerfaire.com
เกี่ยวกับโครงการ "Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต"
โครงการระยะยาว 5 ปี ด้วยงบประมาณรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ริเริ่มขึ้นในปี 2558 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศไทย ผ่านการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม (STEM) รวมถึงการศึกษาสายอาชีพหรืออาชีวศึกษาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ การศึกษา สังคม และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.),สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.), และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีสถาบันคีนันแห่งเอเซียเป็นผู้ดูแลโครงการ