กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลาก ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง รวม 28 อำเภอ 111 ตำบล 528 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52,963 ครัวเรือน 166,513 คน สูญหาย 1 ราย ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 28 อำเภอ 111 ตำบล 528 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52,963 ครัวเรือน 166,513 คน สูญหาย 1 ราย ประกอบด้วย
นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 77 ตำบล 377 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,840 ครัวเรือน 155,862 คน สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย อำเภอเมืองสุราษฎร์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก และอำเภอท่าชนะ รวม 25 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,123 ครัวเรือน 10,651 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พัทลุง เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกงหรา อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง และอำเภอเขาชัยสน รวม 9 ตำบล 41 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความเสียหาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป