กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์' หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) มองไตรมาส 4/61 กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นสุดฮอต จากอานิสงส์ไฮซีซั่นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ลุยเพิ่มรถเช่าสั้น 95 คัน รับความต้องการเช่ารถยนต์พุ่ง หนุนภาพรวมทั้งปีเติบโตได้ตามแผนงาน
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในไตรมาส 4/61 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปัจจัยบวกในช่วงไฮซีซั่นของฤดูการท่องเที่ยวของไทย ที่จะช่วยสนับสนุนความต้องการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นเพื่อเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเห็นสัญญาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านการให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นภายใต้แบรนด์ asap โดยมุ่งตอกย้ำจุดแข็ง 'รถใหม่ ไมล์น้อย' เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ พร้อมเพิ่มจำนวนฟลีทรถยนต์เป็น 650 คันเพื่อรองรับความต้องการใช้บริการในไตรมาส 4 นี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจองรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวและให้บริการเช่ารถยนต์ระดับโลก ได้แก่ booking.com และ rentalcars.com ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยงต่างชาติจากยุโรปและอเมริกา มาใช้บริการรถยนต์ให้เช่าของ asap เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าชาวจีน ที่บริษัทฯ ได้เปิดให้จองรถยนต์ผ่านทางเว็บไซต์ ZuzuChe และ CTrip ก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากจากชาวจีนเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอีกครั้ง
ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าว เป็นผลดีต่อภาพรวมอัตราการใช้งานรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 65-70% จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ย 50-60% และช่วยสนับสนุนการเติบโตในแง่ของผลการดำเนินงาน เนื่องจากรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นสามารถทำรายได้จากการให้บริการต่อหน่วยได้ดีกว่ากลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว และเป็นผลดีต่อภาพรวมรายได้ในปีนี้