กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดโครงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ณ สหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในการผลิตน้ำนม ให้มีต้นทุนที่มีความเหมาะสม ทั้งในเรื่องการเพิ่มผลผลิตต่อตัวแม่โค และการลดต้นทุนการผลิต ถ้าสามารถทำทั้ง 2 แนวทางนี้พร้อมกันไปได้ จะทำให้ขีดการแข่งขันของน้ำนมของเกษตรกรชาวไทยสามารถแข่งขันได้ ซึ่งสหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด เป็นสหกรณ์โคนมที่มีความเข้มแข็ง พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีวินัยในการเลี้ยงโคนม มีความรักในอาชีพ มีความผูกพันธุ์ โดยร่วมกันสร้างจรรยาบรรณในการผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ รวมถึงได้มีการรวมตัวกันเป็นสหกรณ์ที่เข็มแข็ง และมีแนวคิดที่จะทำให้การเลี้ยงโคนมทั้งระบบมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สำหรับในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการผลิตน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้จัดสรรงบประมาณ ในปี 2559 ให้สหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด ในโครงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม จำนวน 7,700,000 บาท ในการดำเนินโครงการธนาคารโคทดแทนฝูง และการผลิตอาหารหยาบ TMR แก่ลูกโคสาวในโครงการ เพื่อเป็นการส่งเสริมการลดภาระเลี้ยงลูกโคและโคสาว โดยรับฝากลูกโคอายุระหว่าง 4 – 6 เดือน จากสมาชิกมาเลี้ยงดูในฟาร์ม เพื่อเลี้ยงดูตามหลักวิชาการจนกระทั่งโตเป็นแม่โคสาวท้อง 3 เดือน พร้อมให้สมาชิกมาไถ่ถอนคืน ซึ่งสมาชิกจะไดัรับประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงจากการเลี้ยง อีกทั้งยังช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพผ่านการบริหารจัดการฟาร์ม อาหารสัตว์สุขอนามัยสัตว์ที่เหมาะสม และในปีงบประมาณ 2561 สหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด ยังได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ ตามโครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร จำนวน 6,576,400 บาท เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงการ Feed center เพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกของสหกรณ์ และสหกรณ์โคนมในพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่เป็นสมาชิก สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายได้
"ปัจจุบันในพื้นที่ภาคเหนือ มีความชัดเจนในการพัฒนาการเลี้ยงโคนมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างมีระบบ และพัฒนาสู่มาตรฐานฟาร์มโคนม ที่เป็นจุดแข็งและเป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพของผู้เลี้ยงโคนม เพื่อให้ผู้เลี้ยงโคนมมีความมั่นคงในอาชีพได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามโครงการฯ ดังกล่าว จะสามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกให้ดียิ่งขึ้น และสหกรณ์ฯ มีการพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็ง ทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนาท้องถิ่น พัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของอำเภอไชยปราการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งทำให้การประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมของสมาชิกประสบผลสำเร็จต่อไปในอนาคต" นายลักษณ์ กล่าว