กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และตรัง รวม 27 อำเภอ 148 ตำบล 806 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,558 ครัวเรือน 154,047 คน สูญหาย 1 ราย ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 15 – 18 ธันวาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 148 ตำบล 806 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,558 ครัวเรือน 154,047 คน สูญหาย 1 ราย ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 19 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอฉวาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร รวม 121 ตำบล 691 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,244 ครัวเรือน 142,800 คน สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย อำเภอเมืองสุราษฎร์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก และอำเภอท่าชนะ รวม 25 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,123 ครัวเรือน 10,651 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ตรัง เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่อำเภอรัษฎา รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 191 ครัวเรือน 596 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป