กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--คอปเปอร์ ไวร์ด
เปิดแล้ว! แหล่งนัดพบของดิจิตอลไลฟ์ dotlife Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย ณ บริเวณชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์... ด้วยพื้นที่กว่า 310 ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด พร้อมดีไซน์โฉมใหม่ ได้แรงบันดาลใจการออกแบบดิสเพลย์ในร้านมาจากรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ (Museum) นำเสนอด้วยการจัดวางสินค้าตามจุดต่างๆ ภายในร้านอย่างทันสมัยลงตัวมากขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถเดินชม และสัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงของสินค้าด้วยตัวเอง พร้อมกับชี้แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคของไทยว่า พิถีพิถันการเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเอง ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพสินค้า รวมถึงการบริการทั้งก่อนและหลังการขายมากกว่าการเปรียบเทียบราคาสินค้า ด้านการตลาดแม้จะเป็นยุคของอีคอมเมิร์ช ความนิยมช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์จะกำลังมาแรงสุดๆ ส่งผลให้จำนวนผู้ขายเกิดมากขึ้น แต่ความน่าเชื่อถือของร้านค้าคงเป็นสิ่งสำคัญและได้เปรียบในการให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย
นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด ตัวแทนจำหน่าย Gadget ระดับพรีเมี่ยมภายใต้ชื่อ dotlife (ดอทไลฟ์) กล่าวภายในงานเปิดร้าน dotlife Flagship Store ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ว่า 10 ปีที่แล้ว สมาร์ทโฟน ไม่ได้เข้ามาแค่เปลี่ยนแปลงเรื่อง การสื่อสารทางโทรศัพท์แต่ยังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและไลฟ์สไตล์ของเรา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) การนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า
"จุดเด่นของร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) ไม่เพียงแค่สินค้าใหม่ตามกระแสเท่านั้น แต่เน้นให้ความสำคัญกับประโยชน์ของสินค้าที่จะมาช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าดีขึ้นกว่าเดิม เป็นอันดับต้นๆ ในการพิจารณาเลือกสินค้าเข้ามาภายในร้าน โดยราคาสินค้าส่วนใหญ่เป็นราคามาตรฐานที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด และสินค้าบางอย่างที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ก็มีราคาเท่ากับในต่างประเทศด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดของลูกค้าที่จะได้รับสินค้าคุณภาพดี ทันสมัย ช่วยให้ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าดีขึ้นตามเป้าหมายที่เราตั้งใจอยากจะให้เป็น โดยกลุ่มลูกค้าหลักของเรา คือคนทุกเพศทุกวัย ที่ชื่นชอบสินค้าเทคโนโลยี"
ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคของไทยเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยี หรือดิจิตอลไลฟ์สไตล์ นายปรเมศร์ ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันคนไทยพิถีพิถันในการเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของสินค้า รวมถึงการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย มากกว่าการเปรียบเทียบเพียงแค่ราคาสินค้าอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตามราคา และโปรโมชั่น ก็ยังมีส่วนในการตัดสินใจของลูกค้า นอกจากนี้ความน่าเชื่อถือของร้านค้าก็นับเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ขายสินค้ามีจำนวนมากขึ้น และการเข้าถึงของลูกค้าก็สามารถทำได้ง่ายกว่าในอดีต ทำให้ความน่าเชื่อถือของร้านค้ากลายเป็นข้อได้เปรียบในการให้ลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าใดสินค้าหนึ่ง
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2562 ของร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) ของยังคงเน้นใช้ออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร ทั้งการให้ข้อมูลสินค้า ข่าวสารสิทธิประโยชน์หรือโปรโมชั่นต่างๆ เพราะเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีจุดแข็งที่สำคัญของร้าน คือ สินค้ามีคุณภาพ สินค้ามีความน่าเชื่อถือ และมีร้านค้าเพื่อสร้างความมั่นให้กับลูกค้า การให้ความสำคัญกับธุรกิจออนไลน์ เป็นการเพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลา และทุกสถานที่ โดยไม่มีข้อจำกัด สอดคล้องไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันที่นิยมช้อปปิ้งทางออนไลน์มากขึ้น "จากจุดแข็งดังกล่าว ทำให้การขายออนไลน์ของเรามีประสิทธิภาพมากกว่าคู่แข่งทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการตัดราคาขายแข่งกับหน้าร้าน แต่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการซื้อสินค้าจากร้าน dotlife (ดอทไลฟ์)"
ร้าน dotlife Flagship Store ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งนี้ นับเป็นแหล่งนัดพบของดิจิตอลไลฟ์แห่งแรกประเทศไทย และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของดอทไลฟ์ โดยมีพื้นที่กว่า 310 ตร.ม. พร้อมดีไซน์โฉมใหม่หรูหรากว่าเดิม ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบการจัดวางสินค้ามาจากรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ (Museum) ทำให้ลูกค้าสามารถเดินชม และสัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงของสินค้าด้วยตัวเอง โดยภายในร้านครบครันไปด้วยสินค้าไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีต่างๆ มากมาย โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่โซนสินค้าประเภท Home ได้มีการปรับพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น มี iPad สำหรับให้ลูกค้าได้ทดลองสั่งงานอุปกรณ์ Home ต่างๆ และเรียนรู้การใช้งานได้ด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ, โซน Smart Watch จัดเป็น counter กระจก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกดูสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น, โซน Connected Toys ของเล่นไฮเทค, เคสดีไซน์สวยๆ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้เปิดโซนใหม่ได้แก่ บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เป็นสาขาแรก เพื่อรองรับกรณีสินค้าภายในร้านหมด หรือไม่มีขายในสาขานี้ โดยลูกค้าสามารถกดเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้จากจอ Touch Screen ภายในร้าน พร้อมเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ซึ่งสินค้าจะส่งตรงถึงบ้าน เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายอย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ที่ลูกค้าชื่นชอบ
ทั้งนี้ปัจจุบันร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) มีสาขาทั้งในกรุงเทพจำนวน 11 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, เมกาบางนา, พรอมานาด, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต์, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และต่างจังหวัดอีก 8 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เทอร์มินอล 21 นครราชสีมา, เทอร์มินอล 21 พัทยา และ แหลมทองระยอง โดยต้นปี 2562 คอปเปอร์ ไวร์ด มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติม โดยจะเปิดสาขาที่ เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี และเซ็นทรัลพลาซา ระยอง นอกจากนี้ยังมีช่องทางการตลาดผ่านออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ www.dotlife.store, Facebook: byDotlife, Instagram: dotlife, LINE@: @dotlife และ Youtube: dotlife