กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,248.20-1,251.34ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,440บาท ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,440 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.22 น. ของวันที่ 19/12/61)
แนวโน้มวันที่ 20 ธันวาคม 2561
ความตึงเครียดสหรัฐ-จีนที่บรรเทาลง หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ทั้ง 2 ประเทศกำลังวางแผนจัดการประชุมใน เดือนม.ค. เพื่อ"จัดทำเอกสารข้อตกลง"ทางการค้า ทั้งนี้ รายงานจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนและสหรัฐได้หารือเกี่ยวกับประเด็นการค้าและเศรษฐกิจทางโทรศัพท์ ทางกระทรวงระบุว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นการหารือใน "ระดับรัฐมนตรีช่วย" โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใด นอกจากนี้จีนยังซื้อถั่วเหลืองสหรัฐรอบ 2 แม้ว่ายังไม่ชัดเจนว่าจีนจะซื้อมากเท่าไร แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทของทางการจีนได้สั่งจองถั่วเหลืองสหรัฐกว่า 1.5 ล้านตันสำหรับการส่งมอบเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นการสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 6 เดือนของจีน ความตึงเครียดที่ลดลงกดดันดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงซึ่งหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลาง (CEWC) เป็นเวลา 3 วันของจีนซึ่งจะเริ่มในวันพุธนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ด้านการขยายตัวและการปฏิรูปของจีน หลังจากที่เศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญให้สกุลเงินหยวนแข็งค่ามากขึ้น และส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจาก ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.5% เป็น 1.75% และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมาลดน้อยลง แม้ว่าประเด็นดังกล่าวจะสนับสนุนแนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินบาท แต่เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับ กนง.คาดการณ์จีดีพีปี 2561 โตลดลงจาก 4.4% เหลือ 4.2% ปี 2562 ลดจาก 4.2% เหลือ 4.0% ค่าเงินบาทจึงแข็งค่าในระดับที่จำกัด ทั้งนี้ หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นแต่กรอบแนวต้านด้านบนอาจไม่ไกลมาก เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะของการขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,256 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,221 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,233 (19,050บาท) 1,221 (18,850บาท) 1,212 (18,700บาท)
แนวต้าน 1,256 (19,450บาท) 1,266 (19,500บาท) 1,278 (19,800บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,233 (19,160บาท) 1,221 (18,980บาท) 1,212 (18,840บาท)
แนวต้าน 1,256 (19,520บาท) 1,266 (19,680บาท) 1,278 (19,860บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999