กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนการขับรถเร็วเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในลักษณะรุนแรง พร้อมแนะผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าที่อัตราที่กฎหมายกำหนด ใช้ความเร็ว ในการขับรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ ใช้ความเร็ว ให้อยู่ระดับที่สามารถควบคุมรถได้เมื่อขับผ่านเส้นทางที่ทัศนวิสัยไม่ดี โดยใช้ความเร็วให้สัมพันธ์กับระยะในการมองเห็นเส้นทางและระยะทางที่ไฟส่องถึง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถเร็วถือเป็นสาเหตุสำคัญ ของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากทำให้ผู้ขับขี่มีขอบเขตในการมองเห็นเส้นทางลดลง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจึงไม่สามารถ ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะหากเกิดอุบัติเหตุ แรงปะทะจะเพิ่มขึ้นตามระดับความเร็ว ทำให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการขับรถเร็ว ดังนี้ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็ว บนเส้นทางอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นการใช้ความเร็วที่ปลอดภัย ใช้ความเร็วในการขับรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ สภาพการจราจร และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ เขตชุมชน บริเวณโรงเรียน ทางโค้ง ทางลาดชัน ถนนที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ใช้ความเร็วให้อยู่ระดับที่สามารถควบคุมรถได้เมื่อขับผ่านเส้นทางที่ทัศนวิสัยไม่ดี อาทิ ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ควันไฟปกคลุมเส้นทาง โดยใช้ความเร็วให้สัมพันธ์กับระยะในการมองเห็นเส้นทาง และระยะทางที่ไฟหน้าส่องถึง ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วในระดับคงที่และสม่ำเสมอ ไม่ขับรถช้าในช่องทางขวา เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึง เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้สัมพันธ์กับความเร็วในการขับรถและปริมาณการจราจรบนท้องถนน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ มีระยะทางในการหยุดรถอย่างปลอดภัย