กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดงาน "งานไก่งวงแห่งชาติ ครั้งที่ 1" พร้อมเปิด "โรงปฏิบัติการสร้างมูลค่าเพิ่มสัตว์ปีก" ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 - 21 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มหาสารคาม และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์มหาสารคาม ตำบลเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ว่า ประเทศไทยได้มีการส่งเสริมให้เลี้ยงไก่งวงอย่างจริงจังได้ไม่นาน ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการศึกษาทดลองก่อนนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยง แต่เนื่องจากไก่งวงเป็นสัตว์ปีกที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงยังไม่คุ้นเคยกับการเลี้ยงและวัฒนธรรมการบริโภคโดยทั่วไป แต่พอได้มีการพัฒนาและส่งเสริม จึงพบว่าไก่งวงเป็นสัตว์ปีกที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว และสามารถปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติได้เช่นเดียวกับไก่บ้านหรือไก่พื้นเมืองไทย ซึ่งขณะนี้มีหลายจังหวัดที่ให้การสนับสนุนส่งเสริมการเลี้ยงไก่งวง ภายใต้งบยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด จึงนับว่าเป็นสัตว์ปีกที่มีโอกาสและมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเกษตรกรรายย่อย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าไก่งวงจะให้ผลผลิตเนื้อคุณภาพดี มีโปรตีนสูง และมีคลอเลสเตอรอลต่ำ สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย แต่ความต้องการของตลาดยังเป็นในลักษณะตลาดเฉพาะ (Niche market) จึงจำเป็นต้องพัฒนาด้านระบบการตลาดของไก่งวงให้มากยิ่งขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเกษตรกรผู้เลี้ยงและผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์จากไก่งวง จึงได้ปรับปรุง "โรงปฏิบัติการสร้างมูลค่าเพิ่มสัตว์ปีก" ซึ่งเป็นอาคารปฏิบัติการที่มีทั้งโรงฆ่าสัตว์ปีกและห้องแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาระบบการผลิตและการตลาดไก่งวงครบวงจรอย่างแท้จริง สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ยึดแนวทาง "ตลาดนำการผลิต" ให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย
ด้าน นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องกับระบบการผลิตและการตลาดไก่งวงในระดับภูมิภาค การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภค รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์จากไก่งวง และสำหรับ "โรงปฏิบัติการสร้างมูลค่าเพิ่มสัตว์ปีก" เป็นอาคารปฏิบัติการที่มีทั้งโรงฆ่าสัตว์ปีกและห้องแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ที่มีมาตรฐานระดับ GMP ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้พัฒนาเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไก่งวงให้มีมูลค่าและปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งยังจะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาระบบการผลิตและการตลาดไก่งวงครบวงจรต่อไป
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีผู้เลี้ยงไก่งวงที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ จำนวน 4,687 ราย มีไก่งวง 74,588 ตัว โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่มีการเลี้ยงมากที่สุดของประเทศ จำนวน 3,116 ราย มีไก่งวง 48,223 ตัว คิดเป็นร้อยละ 64.65 เปอร์เซ็นต์ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ย. 60) นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังได้เก็บรวบรวมพันธุ์และทดสอบการเลี้ยงไก่งวง การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไก่งวง และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกร เป็นผลทำให้มีผู้เลี้ยงมากกว่า 4,600 ราย จำหน่ายไก่งวงขุนมากกว่า 40,000 ตัว/ปี คิดเป็นน้ำหนักมากกว่า 200 ตัน/ปี โดยมีมูลค่าการจำหน่ายไก่งวงมีชีวิต/ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อไก่งวง มากกว่า 50 ล้านบาท/ปี ซึ่งจังหวัดมหาสารคามเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยงไก่งวงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด