กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--โครงการ ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล
ตฤณ นครา ทุ่มงบ 4 หมื่นล้าน นำธงนักลงทุนนานาชาติผุดโปรเจ็คยักษ์ "ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" เนรมิตพื้นที่ กว่า 3,139ไร่ พัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน จ.เชียงราย ให้เป็น One Stop Service City ทันสมัยและครบครัน ภายใต้แนวคิด "เมืองแห่งความสุข" (The City of Harmonious Living) พร้อมจับมือไทรเด้นท์ ซัพพอร์ตฯ จากสหรัฐอเมริกาสร้างเสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 189 เมตร ในโครงการฯ และบันทึกลงใน Guinness World Records ปักหมุดเชียงแสนบนแผนที่โลกและดัน ให้เป็นไอคอนของเชียงแสน แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของไทยที่รู้จักไปทั่วโลกหวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สังคม การลงทุน จ.เชียงรายอย่างยั่งยืน
นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เชียงแสนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางยุทธศาสตร์สูงในหลากหลายมิติ จากที่รัฐบาลได้กำหนดให้จังหวัดเชียงรายคือหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ประกอบกับแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด "นวัตกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทย 4.0"หรือ Tourism Innovation Thailand 4.0 ที่มุ่งสนับสนุนให้เชียงรายเป็น "เมืองแห่งการค้าการลงทุน การเกษตรและการท่องเที่ยว รุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรมล้านนาประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข" บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสเพราะการเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนเป็นการขยายโอกาสให้เด่นชัดขึ้น เนื่องจากเชียงแสนมีที่ตั้ง ณ จุดยุทธศาสตร์ของแนวรอยต่อพรมแดน 3 ประเทศ ทั้งตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของแนวเขตระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ซึ่งมีการพัฒนาโครงการต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมเพื่อความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศจากประเทศจีนทางตอนใต้สู่ประเทศไทยผ่านเมียนมา และสปป.ลาว ดังนั้น การยกระดับทั้งสามอำเภอของเชียงรายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาครัฐฯ ก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัว (Infrastructure & facilities) ไว้หลายด้านทั้งด้านการคมนาคมเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อด้านการขนส่งนานาชาติในระดับภูมิภาค ด้านสิทธิประโยชน์ในด้านการลงทุน การเงิน และศุลกากร"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของตฤณ นคราฯ ได้เผยเพิ่มเติมถึงศักยภาพด้านอื่นๆของเชียงแสนว่า "เชียงแสนตั้งอยู่ในแนวรอยต่อดินแดนของ 3 อารยธรรมที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีอารยธรรมชนเผ่าที่หลากหลายที่สุดของภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังมีธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ผู้คนเป็นมิตร อีกทั้งมีแม่น้ำโขงไหลผ่านอำเภอเชียงแสนแล้ว และเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกซึ่งเป็นยุคแรกของประวัติศาตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เชียงแสนจึงยังมีความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ มีมรดกทางโบราณสถานและวัฒนธรรมที่งดงาม ทำให้เชียงแสนวันนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยังบริสุทธิ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติมองเห็นความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจด้านการลงทุน"
"ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากหลากหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุน ฮ่องกง-จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) โดยโครงการฯ จะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3,139 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.เวียงนอก ต.ป่าสัก และตำบลโยนก ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 40,000 ล้านบาท ด้วยจุดเด่น 5 มิติ คือ 1) Synergy ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและชุมชน 2) Economic Drive การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สร้างการขยายตัวของ GDP และสร้างงานเพื่อการเชื่อมโยงและต่อยอดนวัตกรรมอุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ 3) Ecology การให้ความสำคัญต่อเรื่องของสิ่งแวดล้อมในทุกๆด้าน 4) Innovation การนำนวัตกรรมที่หลากหลายทั้งสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม 5) Smart Tourism การเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งอนาคตมาตรฐานสากลที่ครบวงจรทั้งสถานที่ ความเชี่ยวชาญ แหล่งความรู้ และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
ภายในโครงการฯ แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย ที่พักตากอากาศที่กลมกลืนกับธรรมชาติในมาตรฐานการบริการระดับห้าถึงเจ็ดดาว ศูนย์สุขภาพระดับโลก คอนโดมีเนียมและที่พักอาศัย ศูนย์การค้าระดับพรีเมียม ร้านสินค้าที่ระลึก ศูนย์การประชุมนานาชาติ ศูนย์กระจายสินค้า OTOP พื้นที่เกษตรกรรมเชิงท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บริการการท่องเที่ยวนวัตกรรมเชิงการแพทย์ โดยในแต่ละโซนได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยนวัตกรรมการออกแบบและก่อสร้างที่ทันสมัย แต่ยังคงรักษาแนวคิดอันเป็นรากเหง้าสังคม และวัฒนธรรมของพื้นที่ รวมทั้งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้โครงการกับพื้นที่เดิมอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนและสวยงาม โดยมี SPAN Consultants Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการออกแบบอาคารวางผังเมืองเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง
นอกจากนี้ ภายในโครงการฯ ยังจะมีการก่อสร้างเสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก (Thailand World Tallest Flag Pole) ด้วยความสูง 189 เมตร และเพื่อสร้างให้เชียงแสนเป็นพื้นที่ปักหมุดแห่งใหม่ และเป็นที่จดจำในระดับโลก ติดตั้งธงชาติไทยผืนใหญ่ขนาด 60x40 เมตร กว้างเท่ากับสนามฟุตซอล 1 สนาม สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลกว่า 20 กิโลเมตร ซึ่งจะดำเนินการโดยบริษัท ไทรเด้นท์ ซัพพอร์ต จำกัด (Trident Support LLC) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเสาธงชาติสูงซึ่งเป็นแลนมาร์คมาแล้วทั่วโลก 7 แห่ง และเสาธงที่จะสร้างขึ้นนี้จะได้รับ การบันทึกลงใน Guinness World Records อีกด้วย ส่งผลทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สร้างการรับรู้ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเชียงแสนและเชียงรายได้เป็นอย่างดี โดยโครงการจะใช้เวลาดำเนินการนาน 1 ปี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตฤณ นคราฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเจตนารมณ์และแนวคิดโครงการว่า "ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ลเป็นการลงทุนที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของอำเภอเชียงแสนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเข้าใจในชุมชน และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การเกิด ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล จะสร้างงานให้เกิดการกระจายรายได้ในทุกระดับตั้งแต่แรงงานไปจนถึงระดับเจ้าหน้าที่บริการและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากถึงกว่า 10,000 อัตรา ซึ่งโครงการฯ จะมีการทำความร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐฯ และสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างบุคคลากรและยกระดับมาตรฐานทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องความต้องการของสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการฯ จึงเป็นโอกาสที่จะดึงให้มีชาวเชียงแสน หรือชาวเชียงรายที่ย้ายถิ่นฐานไปทำงานนอกพื้นที่มีโอกาสย้ายกลับสู่ภูมิลำเนา ซึ่งเป็นการช่วยลดปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคคลากรคุณภาพ"
"โครงการ "ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" จึงเป็นมากกว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดยักษ์ ในรูปแบบ One Stop Service City อันทันสมัยเราภูมิใจในเชียงแสนแผ่นดินทองที่เรืองรองด้วยอารยธรรม เราจะสร้างความรุ่งเรือง พลิกผืนแผ่นดินเชียงแสนให้เป็นดินแดนแห่งทองคำ เพื่อ"ความสุข" ของชาวเชียงแสน นักลงทุน ผู้มาเยือน-นักท่องเที่ยว และชาวเชียงราย เพื่อให้เป็น "เมืองแห่งความสุข" หรือ The City of Harmonious Living อย่างแท้จริง" นายตฤณ กล่าวในที่สุด