Movie Guide: บทสัมภาษณ์ 2 นักแสดง ภาพโปสเตอร์ และตัวอย่างภาพยนตร์ GALVESTON เข้าฉาย 17 มกราคม 2562

ข่าวบันเทิง Friday December 21, 2018 16:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล กำหนดฉาย 17 มกราคม 2562 ตัวอย่างภาพยนตร์ https://youtu.be/DFcwYKColl0 นักแสดง เบน ฟอสเตอร์ , แอลล์ แฟนนิ่ง กำกับการแสดง เมลานี่ย์ โลรองต์ ( Breathe ) เรื่องย่อ นักฆ่าฝีมือดี รอย โคดี้ (เบน ฟอสเตอร์) ได้รับแจ้งว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดและกำลังจะตายในไม่ช้า หลังรู้ข่าวร้ายไม่นาน รอยถูกเจ้านายสั่งให้ไปเก็บเป้าหมายโดยห้ามใช้ปืนเด็ดขาด เขาหารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วนั่นคือแผนการของเจ้านายเพื่อเก็บเขาแทน แต่นอกจากรอยจะหนีออกมาได้แล้ว เขายังช่วยเหลือ ร็อคกี้ (แอลล์ แฟนนิ่ง) หญิงสาววัย 19 ปีที่ถูกจับตัวไว้ที่นั่นด้วย ทั้งคู่เดินทางออกนอกเมืองไปยัง กัลเวสตัน บ้านเกิดของ รอย ซึ่งเขากะจะกบดานอยู่ที่นั่นสักพักแล้ววางแผนล้างแค้น แต่การจะไปถึงกัลเวสตันได้นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด นอกจากจะถูกเหล่านักฆ่าตามล่า รอยและร็อคกี้ยังมีเหตุให้ต้องหยุดกลางทางหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการแวะรับเอา ทิฟฟานี่ย์ (คู่แฝด อนิสตัน และ ทินสลี่ย์ ไพรซ์) น้องสาวของร็อคกี้ร่วมเดินทางไปยัง Galveston ด้วยกัน เกร็ดน่ารู้ - เมลานี่ย์ โลรองต์ ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสที่เก่งและมีเสน่ห์บนจอใหญ่ แต่นอกจากการอยู่หน้ากล้องแล้ว เธอยังมีความสามารถหลังกล้องด้วย Galveston คือผลงานการกำกับหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเธอ แต่ก่อนหน้านี้เธอเคยกำกับหนังฝรั่งเศสมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Adopted (2011), Breathe (2014) และหนังสารคดีเรื่อง Tomorrow (2015) ซึ่งเธอกำกับร่วมกับ ซีริล ดิออน โดยทุกเรื่องล้วนได้รับเสียงตอบรับในด้านบวกทั้งสิ้น - แผนการสร้าง Galveston เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว โดยตอนนั้นนักทำหนังชาวเดนมาร์ก ยานุส เม็ตซ์ ถูกรับเลือกให้มานั่งเก้าอี้ผู้กำกับ แต่เขาถอนตัวออกไป แล้วโลรองต์เข้ามาเสียบแทนในปี 2016 สาเหตุที่เธอตัดสินใจกำกับหนังเรื่องนี้เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานดูบ้าง เพื่อพบเจอกับสถานที่ใหม่ๆ นักแสดงใหม่ๆ และวัฒนธรรมใหม่ๆ แม้ว่าความจริงแล้วเธอจะไม่ได้ชื่นชอบหนังแนวนี้เสียเท่าไหร่เลย (โลรองต์บอกว่าเธอไม่ค่อยดูหนังที่มีความรุนแรง และหนังสยองขวัญ) แต่เธอหลงรักตัวละครในหนังมากจนปฏิเสธไม่ลง - ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Galveston คือ นิค พิซโซแลตโต้ (นามปากกาที่เขาใช้ในเครดิตคือ จิม แฮมเม็ตต์) เขาดัดแปลงบทจากนิยายเรื่องแรกของเขาซึ่งมีชื่อเรื่องเดียวกัน ผลงานเด่นๆ ก่อนหน้านี้คือการเขียนบทซีรี่ส์ดราม่าเรื่องเยี่ยม True Detective ทั้ง 3 ซีซั่น รวมถึงซีรี่ส์เรื่อง The Killing และหนัง The Magnificent Seven เวอร์ชั่นรีเมค ผลงานแต่ละเรื่องต่างมีจุดร่วมคือเนื้อหาที่หนักแน่นตึงเครียด และมีฉากแอ็คชั่นดิบเถื่อนบนโลกอันโหดร้าย อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริงแล้ว พิซโซแลตโต้ ไม่ได้พูดคุยกับ เมลานี่ย์ โลรองต์ เกี่ยวกับไอเดียของเขาต่อหนังเรื่องนี้แต่อย่างใด เป็นการตีความของผู้กำกับล้วนๆ - หลังจาก Hell or High Water สืบเนื่องมาจนถึง Leave No Trace เรียกได้ว่า เบน ฟอสเตอร์ ค้นพบแล้วว่าบทแบบไหนที่เข้าทางเขา และสำหรับใน Galveston ก็ถือเป็นอีกครั้งที่ ฟอสเตอร์ รับบทเป็นตัวละครที่ภายในจิตใจแตกสลายในหนังเล็กๆ ที่มีความลูกทุ่งๆ แฝงอยู่ เขาปล่อยของอย่างเต็มที่ในการรับบทเป็นมือปืนป่วยใกล้ตาย รอย โคดี้ จนนักวิจารณ์ต่างชื่นชมการแสดงของเขาอย่างกว้างขวาง ว่าบทเป็นบทที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา - นอกจากยิ่งโตยิ่งสวย แอลล์ แฟนนิ่ง ยังกลายเป็นนักแสดงขายฝีมือตามติดพี่สาว ดาโกต้า ไปอีกคน สำหรับใน Galveston นอกจากเธอจะต้องรับบทหนัก เป็นโสเภณีสาวที่ต้องเกลือกกลั้วกับโลกอันโหดร้าย ซึ่งต้องรีดเค้นพลังในการแสดงมากพอตัว อีกภารกิจที่ยากสำหรับเธอเหมือนกันคือการต้องร้องเพลงในหนังด้วย โดยเพลงที่เธอร้องเป็นเพลงคันทรี่ชื่อว่า Thirteen ของวง Big Star หากใครอยากฟังเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ นี่คือผลงานที่ห้ามพลาด สัมภาษณ์ แอลล์ แฟนนิ่ง การร่วมงานกับผู้กำกับเมลานี่ย์ โลรองต์ เป็นอย่างไรบ้าง - ฉันเคยดูหนังที่ เมลานี่ย์ กำกับไว้ เป็นหนังฝรั่งเศสเรื่อง Breathe แต่ใน Galveston จะเป็นหนังอเมริกัน หนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกที่เธอกำกับ ฉันคิดว่าน่าสนใจเพราะเธอมีความเป็นคนฝรั่งเศสสูงมาก เวลาฉันเจอเธอทีไร ฉันจะเห็นความเป็นฝรั่งเศสในตัวเธอเสมอ (หัวเราะ) การที่เธอมาทำหนังอเมริกันสไตล์คลาสสิค เล่าเรื่องราวในรัฐเท็กซัส การได้เห็นมุมมองของเธอผ่านหนังเรื่องนี้ ฉันคิดว่ามันคงออกมาน่าสนใจทีเดียว คุณชอบอะไรในตัวของร็อคกี้ คุณนิยามตัวเธอไว้ว่าอย่างไรบ้าง - ร็อคกี้ถือเป็นบทที่ท้าทายที่สุดที่ฉันเคยรับเล่นมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ เธอทำให้ฉันกลัวทีเดียวตอนอ่านบทครั้งแรก ฉันเลยอยากนำเสนอบทบาทของเธอให้ออกมาอย่างเหมาะสม เธอต้องพบเจออะไรหลายอย่างที่ฉันไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต การต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในประสบการณ์เลวร้ายแบบนั้นเป็นอะไรที่เครียดมาก แต่ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่แข็งแกร่งและเข้มแข็งทีเดียว ฉันอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าถึงเธอจะอายุน้อย แต่เธอก็ได้พบเจออะไรมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ควรต้องเผชิญด้วยซ้ำ แต่เธอก็แง่มุมที่งดงามแฝงอยู่ในการดิ้นรนสู้ชีวิตของเธอ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับรอย เขาเปรียบได้กับพี่ชาย พ่อ และเพื่อน เขามาพร้อมความรักในรูปแบที่แตกต่างกันปรากฏอยู่ในตัวของคนๆ เดียว มันเป็นแง่มุมที่งดงามมากค่ะ ฉันรักตัวละครตัวนี้จริงๆ การร่วมงานกับฝาแฝด (อนิสตัน และ ทินสลี่ย์ ไพรซ์) ที่ร่วมกันรับบทเป็น ทิฟฟานี่ย์ในวัยเด็ก เป็นอย่างไรบ้าง - ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ปกติแล้วฉันมักจะเป็นคนที่เด็กที่สุดในกองถ่าย การเล่นหนังเรื่องนี้เลยเกิดความรู้สึกที่แปลกเหมือนกัน เหมือนกับฉันได้หวนนึกถึงตัวเองสมัยยังเด็กๆ บางทีคุณครูและพ่อแม่ของทั้งคู่ก็มาเยี่ยมที่กองถ่ายด้วย คือนั่นมันตัวฉันเลยนะสมัยที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ มีคนคอยดูแลฉันมากมาย การได้เจอเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่สนุกเหมือนกัน และถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับเราทั้งคู่ด้วยค่ะ สัมภาษณ์ เบน ฟอสเตอร์ ทำไมคุณถึงเลือกเล่นหนังเรื่องนี้ - ตอนนั้นผมได้ยินว่า แอลล์ แฟนนิ่ง จะมาเล่นหนังเรื่องนี้ ผมเป็นแฟนผลงานตัวยงของเธอพอดี ประจวบกับการได้อ่านบทซึ่งผมคิดว่าเป็นบทที่ดีมาก และการที่เมลานี่ย์จะมากำกับยิ่งทำให้มันน่าสนใจ ผมเคยดูหนังของเมลานี่ย์เรื่อง Breathe มันเป็นหนังที่งดงามมาก ผมชอบพวกเธอ ชอบความสามารถของพวกเธอมาก ๆ ผมยังรู้สึกว่าผมไม่เคยเล่นหนังอะไรแบบนี้มาก่อน เวลาคุณจะเล่นหนังสักเรื่อง อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคุณ เป็นตัวของคนทำหนัง อย่างในกรณีนี้คือเมลานี่ย์ หรือเป็นที่บทหนัง - มันก็แล้วแต่ครับ มันอาจเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พวกเราทุกคนล้วนต้องกินต้องใช้ ในวงการภาพยนตร์มันจะมีแนวความคิดอยู่ว่า บางทีคนเราจะทำในสิ่งที่เชื่อจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ ผมไม่รู้ว่ามีกี่คนนะที่ทำแบบนั้น แต่สำหรับผม ผมชอบศิลปิน ผมชอบการร่วมงานกับคนอื่น และบางทีมันอาจมีเรื่องของที่บ้านเข้ามาเกี่ยวด้วย ผมถ่ายหนังเรื่องนี้ก่อนเรื่อง Leave No Trace แต่ตอนผมอ่านบทเรื่องนั้น ผมเพิ่งได้ข่าวว่าภรรยาผมตั้งครรภ์พอดี และเราจะมีลูกสาว ผมเลยรู้สึกว่าต้องเล่นหนังเรื่องนั้นให้ได้ คุณคิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงประเภทที่ ถ้าคุณได้รับบทอะไรแล้ว คุณจะสวมวิญญาณตัวละครนั้นไว้เสมอจนกว่าหนังจะจบ หรือว่าคุณจะปล่อยตัวละครนั้นหลุดออกจากร่าง - คุณคงทราบดีว่าโลกนี้มีนักมวยอยู่หลายประเภท นักแสดงก็เช่นกัน สำหรับผมแล้ว มันยากนะที่จะสลัดบทออกไปจากตัวได้ทันทีที่ถ่ายทำเสร็จในแต่ละวัน แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่ ในชีวิตจริงจะกลับบ้านไปทำในสิ่งที่ตัวละครจะทำด้วย คือผมคงไม่ออกไปทำเรื่องผิดกฎหมายทุกครั้งที่เล่นบทอะไรแบบนี้หรอก แต่มันยากที่จะสลัดตัวละครให้หลุดออกไป และผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันนะว่าคนที่เขาทำได้นี่เขาทำกันยังไง ผมเคารพพวกเขานะ แต่ผมขอท้าเลย ใครก็ได้ เอาเป็นว่าถ้าคุณต้องแสดงหนังที่เกี่ยวกับกีฬาเบสบอล ในหัวคุณก็จะมีแต่เรื่องเบสบอล ตอนกลับบ้านคุณก็จะคิดถึงแต่เรื่องเบสบอล การรับบทเป็นมือปืน โสเภณี และคนป่วยใกล้ตายก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันแหละครับ มันจะตามตูดคุณไปถึงบ้านเลย คุณคิดว่าถ้าเกิดเอาตัวละครที่คุณเคยรับบทมายืนอยู่ใกล้ๆ กัน จะเข้ากันดีไหม - ผมคิดว่ามันจะเป็นความคิดที่น่ากลัวทีเดียวครับ ถ้าลองคิดภาพตัวละครที่ผมเล่นทุกตัวเอามาตัดแปะบนโปสเตอร์แบบหนัง The Avengers (หัวเราะ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ