กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 21 ธันวาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,258.40-1,262.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,590 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,520 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 21/12/61)
แนวโน้มวันที่ 24 ธันวาคม 2561
ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญหลายประเทศร่วงลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบหลายเดือน ดัชนี MSCI ร่วงเกือบ 4% ในสัปดาห์นี้ และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2560 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพุธปรับตัวลดลง -351.98 จุด และวันพฤหัสบดีร่วงลงอีก -464.06 จุด หลุดระดับ 23,000 จุด ความผัวผวนของสินทรัพย์เสี่ยงดันราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความกังวลทางการเมืองของสหรัฐหนุนราคาทองคำให้ทรงตัวในระดับสูง เมื่อนายจิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการเคารพในวงกว้างในฐานะผู้มีอิทธิพลด้านความมั่นคงภายในคณะบริหารสหรัฐ ยื่นใบลาออกหลังทะเลาะกับ ปธน.ทรัมป์ เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศในการประชุม ณ ทำเนียบขาว ทั้งนี้ บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมทั้งตลาดเงินตลาดทุน และตลาดทองคำอาจเบาบางเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการเข้าตลาดก่อนช่วงวันหยุดยาวปลายปี สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้อาจจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก เพราะตลาดเงินตลาดทุนในหลายๆ ประเทศจะหยุดทำการตั้งแต่วันจันทร์ และหลายประเทศหยุดยาวต่อเนื่องในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสในวันอังคารที่ 25 ธันวาคม และบางประเทศหยุดต่อในวันพุธ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมักจะแคบลงหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตามแนะนำติดตาม ประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่สหรัฐได้ประกาศดำเนินคดีแฮกเกอร์ชาวจีน 2 ราย ในข้อหาทำการโจรกรรมข้อมูลจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอย่างน้อย 45 แห่ง และหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลจีน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย วายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,266-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้เกิดแรงขายออกมา ซึ่งหากราคาทองคำอ่อนตัวลงมา นักลงทุนสามารถเข้าซื้อสะสม โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,256-1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต้องเป็นการซื้อในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น พร้อมทั้งตั้งจุดตัดขาดทุนทันทีหากไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น โดยรอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,256-1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากราคามีการดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านไปได้ให้ชะลอไปปิดสถานะบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสียหายในกรณีที่ราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุนที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทยอยซื้อตามบริเวณแนวรับ ซึ่งหากราคาทองคำอ่อนตัวลงไปหลุดโซนแนวรับแรก มีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,249 (19,250บาท) 1,237 (19,100บาท) 1,226 (18,900บาท)
แนวต้าน 1,266 (19,550บาท) 1,278 (19,750บาท) 1,287 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,249 (19,400บาท) 1,237 (19,210บาท) 1,226 (19,040บาท)
แนวต้าน 1,266 (19,670บาท) 1,278 (19,850บาท) 1,287 (19,990บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999