กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--บลจ.กสิกรไทย
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2561 ในอัตรา 4.00 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 ธันวาคม 2561 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 31.50 ล้านบาท
นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมา กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 โดยกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 26 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 424.73 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และ 3 ปี อยู่ที่ 0.51% ต่อปี และ 2.39% ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 0.65% ต่อปี และ 2.59% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 61)
"จุดเด่นของกองทุน ABFTH คือ เป็นกองทุนรวม ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ (iBoxx ABFTH Index) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงมีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงเนื่องจากกองทุนมีอายุเฉลี่ยของตราสาร (Portfolio Duration) ยาวกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว และต้องการบริหาร Portfolio Duration ที่มีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 6-7 ปี เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น โดยปัจจุบันกองทุนมีขนาดประมาณ 9,600 ล้านบาท และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)" นายชัชชัยกล่าว
สำหรับมุมมองตลาดตราสารหนี้ปี 2562 นายชัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ปี 2562 จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Running Yield) ที่สูงขึ้นตามทิศทางขาขึ้นของดอกเบี้ย ขณะที่สภาพคล่องในประเทศยังอยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อไม่เร่งตัว อย่างไรก็ตามความผันผวนของราคาตราสารหนี้ยังคงมีอยู่จากปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะขึ้น 2 ครั้งในปี 2562 เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ อีกทั้งประเด็นการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างผลตอบแทนของหุ้นกู้ในประเทศด้วย
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน ABFTH สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี ตั้งแต่จัดตั้ง
ณ วันที่ 30 พ.ย. 61 (ต่อปี) (ต่อปี) (ต่อปี) (ต่อปี) (ต่อปี)
ABFTH 0.88% 1.31% 0.51% 2.39% 4.10% 3.83% 4.63%
ผลตอบแทนตัวชี้วัด 0.87% 1.33% 0.65% 2.59% 4.27% 4.01% 4.83%
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุน ABFTH ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือบลจ.กสิกรไทย หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน