มาสเตอร์การ์ดคาดค้าปลีกเอเชียแปซิฟิกครึ่งแรก ปี 51 สดใส คาดค้าปลีกไทยมูลค่าตลาดรวมกว่าหกแสนล้านบาท เติบโต 4.7%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 16, 2008 15:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--124 COMMUNICATIONS
มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ ล่าสุดเผยผลสำรวจคาดการณ์ค้าปลีกครึ่งแรกปี 2551 พบค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คาดค้าปลีกไทยขยายตัวราว 4.7% มูลค่าตลาดรวมแตะหกแสนล้านบาท
จากผลสำรวจคาดการณ์ค้าปลีกในเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้ ประเทศสามอันดับแรกที่คาดว่าขยายตัวมากที่สุด ได้แก่ ประเทศจีน ติดอันดับหนึ่ง จะมีการขยายตัวทางด้านค้าปลีกสูงสุดในภูมิภาค คือ 12.8% (ช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 12.0%) มูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 4 ล้านล้านหยวน รองลงมาอันดับสองได้แก่ อินโดนีเซีย คาดขยายตัว 12.6% (ช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 4.6%) มูลค่าตลาดรวมกว่า 200 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ ส่วนอันดับสาม ได้แก่ ฮ่องกง คาดขยายตัวราว 10.5% (ช่วงเลาเดียวกันปีก่อน 3.2%) มูลค่าตลาดรวมกว่า 1 แสนล้านเหรียญฮ่องกง
ดร. ยุวะ เฮ็ดริก หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ กล่าวว่า “ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมในปีนี้ของภูมิภาคเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องดูกันต่อไปว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคนี้จะช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของความต้องการบริโภคภายในประเทศได้มากน้อยเพียงใด และคงระดับการขยายตัวของอุตสาหกรรมค้าปลีกอยู่อย่างต่อเนื่องหรือไม่”
“สำหรับตลาดที่คาดว่าจะมีการขยายตัวทางด้านค้าปลีกต่ำสุดของภูมิภาคได้แก่ ไต้หวัน นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ที่คาดว่า จะขยายตัวเพียงแค่ 2.9%, 2.4% และ 0.7% ตามลำดับ จากผลคาดการณ์เบื้องต้นของตลาดค้าปลีกไต้หวัน เป็นการสะท้อนให้เป็นถึงความไม่มั่นใจของผู้บริโภคที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้านประเทศญี่ปุ่น ยังคงเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ซึ่งผลมีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนภาวะเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์แม้กำลังตกฮวบ อัตราดอกเบี้ยกลับสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดค้าปลีกโดยตรง” ดร.ยุวะ กล่าว
ประเทศไทย
มาสเตอร์การ์ดคาดยอดค้าปลีกของไทย จะขยายตัวเป็นอันดับที่ 7 ในภูมิภาค ในอัตราราว 4.7% ต่อปี นำประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ โดยมีมูลค่าตลาดรวมของไทยสูงถึง 625,900 ล้านบาท แม้การเลือกตั้งจะผ่านพ้นไปแล้ว ทว่าสถานการณ์ ทางการเมืองก็ยังคงไม่แน่นอน ทำให้การเติบโตของตัวเลขจีดีพีถูกคาดการณ์ไว้เพียง 4.6% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องหวังพึ่งรัฐบาลชุดใหม่ในการรักษาสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของไทยให้ยังคงสดใส และรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้เป็นไปในทางที่ดีต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ