กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
วธ. เผยสถิติชาวพุทธทั่วไทย-ทั่วโลกกว่า 21.9 ล้านคน ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก เผยสถิติเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 6.19 มีวัด ศาสนสถาน และสถานที่งานทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี กว่า ๓๖,๕๕๙ แห่ง
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ผลสรุปจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก ว่า ศน.ร่วมมือกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจสถิติผู้เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ ซึ่งจัดครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๔๘ ปีนี้ เป็นปีที่ ๑๔ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยตั้งศูนย์ประสานงานสวดมนต์ข้ามปี ๒๕๖๑ ระดับอำเภอ จังหวัด หน่วยงาน และระดับประเทศรวบรวมข้อมูลจากทั่วประเทศ
จากข้อมูลพบว่า วัด ศาสนสถานและสถานที่อื่นๆ ที่จัดสวดมนต์ข้ามปี ในปี 2562 ทั่วประเทศและในต่างประเทศ ๓๖,๕๕๙ แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาจำนวน ๓,๓๙๒ แห่ง แบ่งเป็น วัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 457 วัด วัดต่างจังหวัด 32,447 วัด วัดในต่างประเทศ 544 วัด และศาสนาสถานและสถานที่จัดงานอื่น ๆ 3,111 แห่ง โดยสถิติผู้เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีรวมทั้งสิ้น ๒๑,964,๓1๒ คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่ามมาร้อยละ 6.19
ทั้งนี้วัดในต่างประเทศที่จัดสวดมนต์ข้ามปี อาทิ วัดอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น วัดเหมอัศวาราม ประเทศจีน วัดพระพุทธเมตตาและพระเจดีย์บรมพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย วัดพระธาตุหลวง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วัดปทุมวดีราชวราราม ประเทศกัมพูชา พระบรมธาตุชเวดากอง สหภาพแห่งเมียนมา วัดวิสุทธิประดิษฐาราม ประเทศมาเลเซีย วัดพุทธานุสรณ์และวัดป่าธรรมชาติ สหรัฐอเมริกา เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล และวัดพุทธสามัคคี อินเวอร์คาร์กิลล์ ประเทศนิวซีแลนด์และอุทยานแห่งชาติ ๑๐๔ แห่ง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่จัดตามหลักอื่นๆ ได้แก่ ศาสนาคริสต์ จัดที่อาสนวิหารอัสสัมชัญบางรัก, พราหมณ์-ฮินดู จัดที่โบสถ์เทพมณเฑียร,ซิกข์ จัดที่วัดซิกข์พาหุรัด และวัดซิกข์ ซอยอโศก ๒๑ "เป็นที่น่ายินดีที่ชาวพุทธทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ร่วมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และร่วมกิจกรรมสวดมนต์แทนการฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของความรุนแรง การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าวัดใกล้ชิดพระศาสนามากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาและมีผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญจากต่างประเทศ 13 ประเทศ"
การจัดสวดมนต์ข้ามปี ในปีนี้เป็นกิจกรรมแรกที่สมเด็จพระสังฆราช และผู้แทนคณะสงฆ์ จาก 7 ประเทศอาเซียน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและศาสนา และผู้บริหารระดับสูงจากต่างประเทศ ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งถือเป็นวาระอันเป็นมงคลยิ่งของการเข้าสู่การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 และเป็นครั้งแรกที่มีการอัญเชิญ "พระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญ" จากต่างประเทศ 12 ประเทศ และสำหรับประเทศไทย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพระบรมมหาราชวัง ร่วมในริ้วขบวนและประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ – ๑ มกราคม ๒๕๖๒ เพื่อให้ประชาชนสักการะในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งพระราชทานหนังสือสวดมนต์ให้ประชาชนสำหรับสวดมนต์ข้ามปีในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ จะอัญเชิญพระบรมสาริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญจากต่างประเทศไปประดิษฐานให้ประชาชนสักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนถึงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๒
นายวีระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมการศาสนา ได้จัดกิจกรรมไหว้พระ ๑๐ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๑๐ รัชกาล เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยจัดรถบริการรับ-ส่งฟรี วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ – ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ตามเส้นทาง ณ วัดสำคัญที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิต เพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่กับสังคมไทย