กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--ซีพี ออลล์
" ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนไทยนิยมส่งคำอวยพรความสุข(ส.ค.ส.) ความสุขนั้นมีมากมายหลายอย่าง ความสุขระดับพื้นฐานทั่วไป ได้แก่ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา แต่ความสุขสูงสุดหรือ บรมสุข คือ " นิพพานัง ปรมัง สุขัง " แปลว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง เพราะดับกิเลสได้ นับเป็นสุดยอดแห่งความสุขในโลกุตระ เป็นสุขในธรรมะ พบได้ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ศาสนาอื่นไม่มี "
ข้อคิดจาก พระมหาโพธิ์วงศาจารย์ เจ้าอาวาส วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ในหัวข้อ "ธรรมะดี...ส่งท้ายปี 61" บนเวที "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ " หนึ่งในโครงการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม ของ บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ณ อาคารซีพีทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ที่จัดบรรยายเป็นประจำทุกวันศุกร์ ให้ประชาชนได้ร่วมฟังมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 22
พระมหาโพธิ์วงศาจารย์ กล่าวว่า ในเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนไทยนิยมเลี้ยงฉลองกันใหญ่โต ว่าสำเร็จแล้ว รอดตายมาอีกปีหนึ่ง แต่ปีใหม่แล้วจะรอดตายไปได้กี่วันก็ไม่รู้เพราะเป็นเรื่องของอนาคต หลายคนทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ ล้มเหลวตลอด เพราะไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ เหนื่อยและท้อแท้ว่า สิ่งที่ปฎิบัติอยู่จะสำเร็จได้จริงไหม สงสัยหนักเข้า ก็หยุดไม่สานต่อสิ่งที่เริ่มต้นไว้ บางคนลงมือทำ 10-20 ครั้งเจอความล้มเหลว ก็ยอมแพ้เรื่อยไป แต่ผู้ชนะที่ประสบความสำเร็จได้ จะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพียรปฎิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง แม้เจออุปสรรคยากลำบากสักเพียงใด ก็มุ่งมั่นทำงานต่อไป จนประสบความสำเร็จและได้รับความสุขที่แท้จริง
มีคำพูดแต่โบราณว่า " หกล้ม หกลุก " หมายความว่า พ่ายแพ้ล้มเหลวสักกี่ครั้ง ต้องลุกขึ้นสู้ใหม่ พระพุทธเจ้ากว่าจะตรัสสู้ได้ ต้องบำเพ็ญบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ สะสมความดี ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติ พระพุทธเจ้า เกิดแล้ว เกิดอีก เป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ การบำเพ็ญบารมีดังกล่าวนี้เป็นความยากลำบากแสนสาหัส แต่พระองค์มานะบำเพ็ญเพียรสู้ไม่ถอย จนตรัสรู้ ได้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระศากยมุนีพุทธเจ้า
การนำหลักธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวัน พิจารณาไตร่ตรองด้วยปัญญาจนรู้ว่า สิ่งนั้น ดีหรือชั่ว หากทำในสิ่งที่ดี ก็ให้ทำต่อไปจนประสบความสำเร็จ หากเป็นสิ่งชั่ว ให้หยุดทำผิดศีลธรรม เพราะเสี่ยงติดคุกติดตะราง ไม่ได้รับความสุข และอาจถึงแก่ความตายได้โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด ความสุขและความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หากใช้ชีวิตอย่าง "มีสติ" ควบคุมใจและความคิด มุ่งมั่นทำความดีด้วยความตั้งใจ คนที่มีความทุกข์ เพราะใจไม่หยุดนิ่ง คิดไปเรื่อยเปื่อย จนเกิดความเครียด นอนไม่หลับ ต้องหันไปหายาเสพติด ทำให้สมองเบลอ ลืมปัญหา ยิ้มได้ทั้งวัน การฝึกจิตให้นิ่งมีสติปัญญา ก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง ประสบความสำเร็จในชีวิตและใจเป็นสุข
พระมหาโพธิ์วงศาจารย์สอนให้คนไทย รู้จัก "การปล่อยวาง" เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย คนเราเป็นทุกข์ เพราะ ไปยึดมั่นถือมั่น ลุ่มหลงสิ่งหนึ่งสิ่งใด จนเครียดและเป็นทุกข์ หากรู้จักปล่อยวาง หมดพันธะ จิตก็เป็นสุข หลักธรรมดังกล่าว ในทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า "ไตรสิกขา" ประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อฝึกหัดกาย วาจา จิตใจ และปัญญาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป จนบรรลุจุดหมายสูงสุด คือ นิพพาน ท่านได้ยกตัวอย่างให้เป็นข้อคิดว่า มีโยมท่านหนึ่ง แม่ให้ถ้วยสังคโลกเป็นมรดก เก็บรักษาอย่างดี เพราะมีราคาสูงมาก พอไปวัดทำบุญ ก็ต้องรีบกลับบ้านไปค้างที่ไหนไม่ได้ เพราะเป็นห่วงเครื่องสังคโลก พออายุมาก ไม่ค่อยแข็งแรง มือไม้สั่น วันดีคืนดีนำเครื่องสังคโลกมาทำความสะอาดแล้วทำหล่นแตก ก็รู้สึกเสียดาย แต่ทำอะไรไม่ได้ เพื่อนชวนไปรักษาศีลที่วัด เขาก็มีความสุขขึ้น เพราะรู้จักปล่อยวาง
" ธรรมะดีทุกข้อ ดีทุกประการ เพราะธรรมะ คือ ธรรมชาติเป็นปกติของมนุษย์ เป็นเรื่องที่ดีงามเมื่อปฏิบัติตาม เราจะได้ความสำเร็จและสัมผัสความสุข ทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยตัวเราเอง " พระมหาโพธิ์วงศาจารย์ กล่าวในที่สุด
สำหรับผู้ที่สนใจข้อคิดดี ๆ แบบนี้ สามารถเข้ารับฟังธรรมบรรยายกับโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ได้ที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00 – 13.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น