กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 04 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,289.60-1,298.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,710 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.49 น. ของวันที่ 04/01/62)
แนวโน้มวันที่ 07 มกราคม 2562
จากรายงานเรื่องความคืบหน้าการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐกระตุ้นทัศนะเชิงบวกต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง เมื่อกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนและสหรัฐเตรียมจัดประชุมระดับรัฐมนตรีช่วย ณ กรุงปักกิ่ง วันที่ 7 – 8 ม.ค. นอกจากนี้ ผลสำรวจภาคเอกชน ที่รายงานออกมาล่าสุด แสดงว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนธ.ค. บรรเทาผลกระทบเกี่ยวกับความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวได้บ้าง ส่งผลให้ดัชนี MSCI ของเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นปรับขึ้น 0.57% และเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำสลับออกมา อย่างไรก็ตามราคาทองคำสามารถทรงตัวในระดับสูง หลังจากนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ระบุว่า เฟดควรยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์ในตลาดการเงินไม่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสไม่ถึง 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ข้อมูลกิจกรรมโรงงานสหรัฐชะลอตัวกว่าที่คาดหมายในเดือนธ.ค. เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้เริ่มสูญเสียแรงผลักดัน กระตุ้นความคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเปลี่ยนแปลงการปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่การลดดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ แนวโน้มดังกล่าวหนุนราคาทองคำไว้ ทั้งนี้แนะนำติดตาม สถานการณ์การปิดดำเนินการรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดดำเนินการรัฐบาล(ชัตดาวน์)โดยปราศจากการบรรจุงบประมาณสร้างกำแพงบริเวณพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก แต่อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวระบุว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอาจใช้สิทธิ์ยับยั้งมาตรการดังกล่าว จึงยังต้องติดตามประเด็นนี้ต่อไป วายแอลจีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรเป็นหลัก ราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงอีกครั้งหากไม่ผ่านบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบเพื่อควบคุมความเสี่ยง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มเชิงบวก โดยระยะสั้นราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,284 (19,450บาท) 1,277 (19,350บาท) 1,266 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,309 (19,850บาท) 1,318 (20,000บาท) 1,326 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,284 (19,610บาท) 1,277 (19,510บาท) 1,266 (19,340บาท)
แนวต้าน 1,309 (20,000บาท) 1,318 (20,130บาท) 1,326 (20,250บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999