กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--กระทรวงพาณิชย์
นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์วันนี้ (15 ม.ค.) ภายหลังเป็นหัวหน้าสายตรวจน้ำมันพืช พร้อมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ เข้าตรวจสอบ สอบถาม ผู้ค้าส่ง/ค้าปลีกน้ำมันปาล์ม ที่กำลังมีกระแสข่าวการกักตุน จนทำให้สินค้าขาดตลาด ณ บริเวณร้านค้าส่งในตลาดท่าเตียน ถนนมหาราช เขตพระนคร กทม.จำนวน5-7 ร้านปรากฎว่า ไม่พบสินค้าขาดตลาดแต่อย่างใดและไม่มีการกักตุนใดๆ แต่จากการสอบถามผู้ค้าส่งในบริเวณดังกล่าวทราบว่า ขวด1 ลิตร มีคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ที่ชะลอตัวลงเพราะราคาสูงขึ้น เนื่องมาจากเมื่อไปเทียบราคากับห้างใหญ่ๆสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด)เช่น โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ จะถูกกว่า ผู้บริโภคจึงหันมาซื้อกันมากขึ้นเพราะทางกระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาอยู่ “ จากการตรวจสอบร้านค้าส่งบริเวณตลาดท่าเตียนไม่พบการกักตุน ยังมีสินค้าเพียงพอต่อการบริโภค ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวเพราะจะเป็นจิตวิทยาทำให้คนหันมาซื้อและกักตุนสินค้าเพื่อบริโภคเพิ่มขึ้นจากปกติ เช่น เคยซื้อ 1 ขวดก็มาซื้อ 2 ขวดเพื่อสำรองไว้ สินค้าก็จะขาดตลาดโดยอัตโนมัติ ขอให้บริโภคตามปกติรับรองสินค้าไม่ขาดตลาดแน่ และขอแจ้งเตือนว่าหากผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมกักตุนสินค้าน้ำมันปาล์ม กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับเป็นเงินถึง 1.4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” นายกฤษฎา กล่าว
ด้านผลผลิตปาล์มน้ำมันฤดูกาลนี้กำลังเริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณการว่า 3 เดือนแรก ของปีนี้จะมีปริมาณดังนี้ เดือนมกราคม 97,000 ตัน กุมภาพันธ์ 98,000 ตัน และมีนาคม 109,000 ตัน
กระทรวงพาณิชย์ได้จัดชุดสายตรวจน้ำมันพืชพิเศษเฉพาะกิจ 5 สาย เพื่อตรวจสอบน้ำมันปาล์มทั่วประเทศ โดยในวันที่ 15 ม.ค. ได้ออกตรวจสอบในเขตกรุงเทพฯ 3 สาย คือ สายที่1 ตรวจบริเวณถนน รามอินทรา มี นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ และนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าสาย สายที่2 ออกตรวจแถบเขตบางแค มีนางปราณี ภาษีผล และนางอรสา มั่นคงขันติวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าสาย และสายที่3 ตรวจสอบร้านค้าบริเวณตลาดท่าเตียน เขตพระนคร มีนายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์ศานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ และนายกรณรงค์ ฤทธิ์ฤาชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าสาย