กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบใน 23 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร รวม 41 อำเภอ 251 ตำบล 1,924 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ซึ่ง กอปภ.ก. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้อำนวยการกลาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 - 6 ม.ค.62 อิทธิพลจากพายุโซนร้อน "ปาบึก" ส่งผลกระทบในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 97 อำเภอ 454 ตำบล 2,887 หมู่บ้าน 133 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 222,737 ครัวเรือน 720,885 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ประชาชนยังอยู่อาศัยในศูนย์อพยพจังหวัดนครศรีธรรมราช 6 จุด รวม 970 คน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด ได้แก่
นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร รวม 41 อำเภอ 251 ตำบล 1,924 หมู่บ้าน แยกเป็น นครศรีธรรมราช เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 23 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวไทร อ.ปากพนัง อ.อำเภอขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.อำเภอนบพิตำ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.อำเภอทุ่งสง อ.อำเภอร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งใหญ่ อ.พิปูน อ.พรหมคีรี อ.ช้างกลาง อ.ถ้ำพรรณรา อ.ฉวาง อ.ลานสกา อ.พระพรหม อ.ชะอวด อ.จุฬาภรณ์ อ.เชียรใหญ่ อ.นาบอน และอ.บางขัน รวม 155 ตำบล 1,400 หมู่บ้าน 105 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 179,868 ครัวเรือน 539,847 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยประชาชนยังอยู่อาศัยในศูนย์อพยพ 6 จุด รวม 970 คน จัดตั้งโรงครัวพระราชทานใน อ.ปากพนัง จัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และอำเภอสิชลท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเปิดให้บริการตามปกติแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศหยุดเดินรถช่วงสถานีเขาชุมทอง – สถานีนครศรีธรรมราช โดยมีรถรับส่งผู้โดยสารจากสถานีนครศรีธรรมราชไปขึ้นรถไฟที่เขาชุมทอง ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว
สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ดอนสัก อ.เกาะพะงัน อ.บ้านนาเดิม
อ.พุนพิน อ.เกาะสมุย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาสาร อ.พระแสง และอำเภอท่าฉาง รวม 57 ตำบล 316 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,511 ครัวเรือน 23,987 คน บ้านเรือนเสียหาย 19 หลัง ท่าอากาศยานเปิดให้บริการตามปกติ ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว
ชุมพร เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ละแม อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.เมืองชุมพร และ อ.ปะทิว รวม 39 ตำบล 208 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,219 ครัวเรือน 13,783 คน ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว
ทั้งนี้ กอปภ.ก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน
การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ภัยเริ่มคลี่คลายแล้ว ให้สำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป