กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--ท่าเรือประจวบ
บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด หรือ PPC มีท่าเทียบเรือให้บริการจำนวน 12 ท่า สามารถรองรับเรือขนถ่ายสินค้าที่มีระวางขับน้ำสูงสุดถึง 100,000 DWT พร้อมกัน 2 ลำ ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเหล็กในการขนถ่ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เหล็ก ด้วยต้นทุนการขนส่งที่ต่ำและแข่งขันได้ ตลอดระยะเวลา 28 ปีที่ "ท่าเรือประจวบ" หรือ PPC ได้เปิดให้บริการท่าเทียบเรือกับลูกค้าในกลุ่มบริษัทสหวิริยา เช่น บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี บมจ.เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย บจ.เหล็กแผ่นเคลือบไทย ซึ่งได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าให้เป็นท่าเรือเอกชนที่มีประสิทธิภาพในการให้บริการที่ดีเยี่ยมตลอดมา
บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด หรือ PPC เป็นธุรกิจให้บริการท่าเรือพาณิชย์เอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญด้านการขนส่ง และด้านการบริการที่ครบวงจรและสามารถแข่งขันกับลูกค้าอื่นๆ ได้ บริษัทฯ ทำการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนส่ง เพื่อรองรับความต้องการการขนถ่าย การขนส่งที่เต็มรูปแบบ พร้อมเปิดตัวให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงบุคคลภายนอกได้รู้จักบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเข้ามาใช้บริการการขนส่งทุกรูปแบบอย่างครบวงจร
นายสุรินทร์ สายสิน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมรายได้นอกเครือ ซึ่งเป็นรายได้ที่จัดเก็บจากลูกค้าอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจเหล็กว่า ภาพรวมรายได้นอกเครือมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานให้บริการเรือสินค้าเข้าเทียบท่า และการขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเรือประจวบ ปี 2560 มีรายได้รวม 6.3 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานของบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ในปี 2561 ท่าเรือประจวบมีปริมาณสินค้าผ่านท่าทั้งสิ้น 2.8 ล้านตันเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.17% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เติบโตสูงขึ้นทั้งปริมาณสินค้าผ่านท่า ทั้งในเครือและนอกเครือ ในปี 2562 รายได้รวม 12.6 ล้านบาท โดยถือว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น 200%
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกในปี 2562 และ 2563 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามการคาดการณ์ของ IMF อาทิ การขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งปัจจัยต่างๆ ภายนอกประเทศเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวมที่จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง