กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 07 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,282.20-1,292.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,550 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,670 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,720 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 07/01/62)
แนวโน้มวันที่ 08 มกราคม 2562
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายแสนคนต้องหยุดงาน หรือ ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง จากการปิดดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐบางส่วน (ชัตดาวน์) ซึ่งล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่อีกครั้งว่า จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างกำแพง แนวทางดังกล่าวขึ้นอยู่กับผลการเจรจาในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อกดดันพรรคเดโมแครตที่ปฏิเสธจะอนุมัติงบประมาณ 5.6 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพง ทางด้านนายไมค์ เพนซ์ รองปธน.สหรัฐได้นำคณะทำงานของทำเนียบขาวพยายามเจรจากับสมาชิกสภาคองเกรส แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ความตึงเครียดดังกล่าวส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกกดดันจากการฟื้นตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะมีความคืบหน้า โดยคณะผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐฯได้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่ในช่วงวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ ขณะที่ปธน.ทรัมป์แสดงความคิดเห็นเชิงบวกว่าการเจรจาการค้ากับจีนดำเนินไปด้วยดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ของจีน รายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจจะเปิดการเจรจากับ นายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน ในระหว่างการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ หรืออาจส่งนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ(USTR) และนายจาเร็ด คุชเนอร์ ที่ปรึกษาของทำเนียบขาว ซึ่งเป็นผู้แทนระดับสูงร่วมเจรจาแทน นอกจากนี้แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อหลังจากค่าเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 7 เดือนในวันจันทร์ ซึ่งกดดันราคาทองคำในประเทศ ตามแนวโน้มเงินทุนที่อาจไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ จนหนุนสกุลเงินในกลุ่มประเทศดังกล่าวให้แข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนเก็งกำไรในตลาดทองคำในประเทศได้ค่อนข้างยาก แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,276 (19,300บาท) 1,265 (19,100บาท) 1,256 (18,950บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,650บาท) 1,309 (19,800บาท) 1,318 (19,950บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,276 (19,430บาท) 1,265 (19,260บาท) 1,256 (19,130บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,780บาท) 1,309 (19,940บาท) 1,318 (20,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999