กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--ปตท.
ผ่านรายการพิเศษ "รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยใต้" พร้อมจัดแผนบรรเทาความเดือดร้อนสองระยะ ทั้งระยะเร่งด่วน และระยะฟื้นฟู เร่งส่งมอบถุงยังชีพเพิ่มเติมต่อเนื่อง และลงพื้นที่เยียวยาผู้ประสบภัย
วันนี้ (7 มกราคม 2562) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ขอเป็นกำลังใจ และร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบวาตภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ด้วยการร่วมสนับสนุนเงินช่วยเหลือจำนวน20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน) ในงาน "รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัยใต้" ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับมอบเงิน ณ ห้องส่ง 5 อาคารปฏิบัติการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
โดยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ กลุ่ม ปตท. แบ่งแผนการช่วยเหลือออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน และระยะฟื้นฟู ซึ่งในระยะเร่งด่วนได้จัดถุงยังชีพจำนวน 6,000 ถุง พร้อมระดมพลผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ในนาม 'ชมรมพลังไทย ใจอาสา' ร่วมแรงร่วมใจบรรจุถุงยังชีพ เพื่อส่งมอบไปยังหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ คลังปิโตรเลียม คลังน้ำมัน ศูนย์ปฏิบัติการแนวท่อ และหน่วยงานเครือข่าย รวมถึงการเปิดสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นศูนย์กระจายความช่วยเหลือ และเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบและส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการช่วย ปภ. ในพื้นที่ ส่วนในระยะฟื้นฟู ได้เตรียมการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดตั้งหน่วยฟื้นฟู กลุ่ม ปตท. ซึ่งประกอบด้วย หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หน่วยซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หน่วยซ่อมแซมจักรยานยนต์ หน่วยตรวจสอบสภาพถังก๊าซ และหน่วยทำความสะอาด เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย บรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนต่อไป
"ในสภาวะวิกฤตการณ์เช่นนี้ กลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายในครั้งนี้ นอกเหนือไปจากภารกิจสำคัญคือการจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติอย่างเร่งด่วนให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี พร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น โดยลดราคาพิเศษ 50% ตามนโยบายขององค์กรที่จะมุ่งให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อต้องการให้ทุกภาคส่วนในสังคมมีความเข้มแข็ง และกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด" นายชาญศิลป์ กล่าวในตอนท้าย