กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--ที พลัส สกินแคร์
บริษัท ที พลัส สกินแคร์ จำกัด เปิดตัว Cherry Baby ผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น เพื่อให้คนไทยใช้ของดีมีคุณภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมี "ชาคริต แย้มนาม" และครอบครัว เป็นพรีเซ็นเตอร์
รับทรัพย์ต้อนรับปีใหม่เลยทีเดียวสำหรับ "ชาคริต แย้มนาม" ที่หอบภรรยา "แอน ภัททิรา" และลูก "น้องโพธิ์" มาร่วมงาน Grand opening CHERRY BABYผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็ดสำเร็จรูปนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวรับเป็นพรีเซ็นเตอร์พร้อมทั้งครอบครัว โดยมี "ศิริศักดิ์ ศิริธัญญะรัตน์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที พลัส สกินแคร์ จำกัด กล่าวเปิดงาน ภายในงานยังจัดให้มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจาก "เบน ชลาทิศ" รับหน้าที่พิธีกรโดย "เอกกี้" เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 ลาน Eden
โดย "ชาคริต แย้มนาม" ก็ได้เผยถึงการทำงานครั้งนี้ว่า "ค่าพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่ได้โหดร้ายทารุณครับ ก็สมเหตุสมผลเพราะทาง CHERRY BABY เขาก็ใหม่จริงๆ เหมือนกับเราที่เราทำขนมที่เป็นแบรนด์ลูก เพราะฉะนั้นเราก็เข้าใจกันและได้คุยกันหลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว เราค่อนข้างจะใส่ใจทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ต้องสะอาดปลอดภัย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นอะไรที่สำคัญมากเพราะลูกเราต้องใช้ตลอดเวลา ผมได้ทดลองใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป CHERRY BABY ก่อนจะรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะก่อนที่จะรับงานเราต้องได้ทดลองสินค้าก่อนว่าดีจริงถึงจะรับ พอใช้แล้วรู้สึกว่า ผิวน้องโพธิ์ไม่ระคายเคืองไม่มีอาการผดผื่นหรือแพ้ แถมผ้าอ้อมยังกระชับบางและนุ่มมาก ใช้แล้วถูกใจเลยครับ ที่สำคัญราคาไม่แพง เป็นราคาที่ทุกครอบครัวสัมผัสได้ ก็เลยตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ ประกอบกับเราได้คุยกับเจ้าของและเห็นถึงความตั้งใจ เป็นสินค้าของไทยนวัตกรรมญี่ปุ่น เราก็เลยได้เข้ามามีส่วนร่วมรวมถึงช่วยในการออกไอเดียต่างๆ ด้วยครับ"
"ตอนนี้ก็เปิดบัญชีน้องแล้วครับ เปิดตั้งแต่ตอนเกิด เปิดวันเกิดเขาเลยครับ ก็คงเข้าบัญชีน้องเลย(หัวเราะ) ทำงานครั้งนี้น้องก็เฟรนลี่มากๆ ชอบร้องเสียงดังรับงานไม่มีปัญหาเลย ถึงเวลาหลับก็หลับ ถึงเวลาตื่นก็สะกิดเขาหน่อยเขาก็ตื่น แล้วเป็นคนชอบออกมาข้างนอก ออกมาก็จะโชว์สุดฤทธิ์"
"ชีวิตช่วงนี้อยู่กับครอบครัวช่วยกันเลี้ยงลูกมีความสุขมากครับ ก็เป็นความตั้งใจที่เราเองก็ต้องการมาตั้งแต่เราเด็กๆ เพราะว่าเราโตมาด้วยความที่มันไม่ครบมันขาด เราก็อยากทำให้มันสมบูรณ์ แล้วตอนนี้มันก็เป็นโอกาส และเป็นความลงตัวที่คุณแอนเข้ามาเติมเต็มให้กับชีวิต แล้วทำให้เรารู้สึกถึงความเรียบง่ายของชีวิตที่มันสบาย มันก็เลยทำให้เรายิ่งมีความตั้งใจที่เราจะทำอะไรเพื่ออนาคตแล้ว สมัยก่อนเราคงเป็นอะไรที่อยู่ไปวันต่อวัน ตอนนี้มันไม่ได้แล้วมันต้องแพลนไปถึงลูกเรียนมหาลัยแล้ว เพราะว่าไม่ใช่อยากจะเข้าก็เข้าได้ ต้องไปสมัคร ต้องไปสัมภาษณ์ นี่ก็ 8 เดือนแล้วพอครบขวบก็ต้องเริ่มติดต่อเรื่องโรงเรียนต้องเก็บเงิน ต้องหาวิธีต่อยอดเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าการศึกษามันก็แพงมากเดี๋ยวนี้ เราก็ต้องวางแผนไว้ ไม่ชะล่าใจครับ"