แนวโน้มตลาดบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตและสมุยปี 2551

ข่าวอสังหา Thursday January 17, 2008 16:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--ซีบี ริชาร์ด เอลลิส
จากการเปิดเผยของซีบี ริชาร์ด เอลลิส ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เกี่ยวกับตลาดบ้านพักตากอากาศของไทยพบว่า การเติบโตของภาคธุรกิจนักท่องเที่ยวได้ก่อให้เกิดตลาดบ้านพักตากอากาศและปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้นและเสริมสร้างความต้องการให้เพิ่มขึ้น ซึ่งในทางกลับกันก็ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ปี 2550 นับเป็นปีที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งที่พักตากอากาศของไทยมีการเจริญเติบโตขึ้นมาก เฉพาะปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตมีทั้งสิ้น 5.47 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย สมุยซึ่งเป็นเกาะสำหรับพักผ่อนตากอากาศในสไตล์ “บูทีค” แห่งใหม่ของเอเชียก็กำลังเติบโตเป็นอย่างมากในขณะนี้ ในปี 2543 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังเกาะสมุยเพียง 600,000 คน ในขณะที่ปี 2550 มีสูงถึง 1.5 ล้านคน
ภูเก็ตได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีผลการดำเนินงานที่ดีมากในด้านอัตราการเข้าพักในโรงแรม และปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาแม้ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว จากการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในช่วงหน้าเทศกาล การได้รับความนิยมจากทั่วโลกได้เปลี่ยนภูเก็ตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีอัตราการเข้าพักในโรงแรมเฉลี่ย 70% ต่อปี และในช่วงหน้าเทศกาลนี้เป็นหนึ่งในช่วงที่ภูเก็ตมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจุบัน สนามบินนานาชาติภูเก็ตสามารถรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ 287 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในขณะที่โรงแรมหลายแห่งและสายการบินต่างๆถูกจับจองจนเต็มไปถึงช่วงมีนาคมปีนี้
ด้านสมุย ซึ่งนับได้ว่าเป็นคู่แข่งในสไตล์บูทีคของภูเก็ต ก็มีปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายเส้นทางการบินของสายการบินบางกอก แอร์เวย์ ซึ่งช่วยให้เดินทางไปยังเกาะสมุยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันสายการบินดังกล่าวได้ให้บริการเส้นทางบินตรงทุกวันสู่ฮ่องกงและสิงคโปร์ รวมทั้ง 20 เที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ เป็นที่คาดการณ์ว่าการเติบโตจะดำเนินต่อไป เนื่องจากในปัจจุบันเครื่องบินที่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้มากขึ้นสามารถลงจอดได้ในสมุย นอกจากนี้ สายการบินไทย จะเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุยวันละ 2 เที่ยวบิน และจะมีการเปิดให้สายการบินอื่นอีก 2 สายการบินลงจอดในสนามบินสมุย นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าจำนวนที่นั่งในเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะเพิ่มขึ้นอีก 62% เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้อาจจะทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังสนามบินมากกว่า 2 ล้านคนในปี 2551นี้
“ระบบขนส่งทางอากาศในสมุยที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสมุย และซีบี ริชาร์ด เอลลิสคาดว่า จะทำให้ปริมาณความต้องการที่อยู่อาศัยบนเกาะเพิ่มมากขึ้น” นางสาวประกายเพชร มีชูสาร ผู้จัดการ ประจำซีบี ริชาร์ด เอลลิส สาขาสมุย กล่าว ซีบี ริชาร์ด เอลลิสยังคงมีความมั่นใจต่ออนาคตตลาดบ้านพักตากอากาศของไทยในระยะยาว โดยในปี 2550 ซีบี ริชาร์ด เอลลิสได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 2 สาขา ในสุมยและพัทยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายเครือข่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทรีสอร์ทให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ราคาที่ดินในปี 2550 ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลง อันสืบเนื่องมาจาก ความไม่แน่นอนในเรื่องพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (FBA) ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2550 สำหรับในภูเก็ต ปริมาณการซื้อขายที่ดินมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายในช่วงไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีมูลค่าประมาณ 6,900 ล้านบาท ลดลง 6.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2549 และแนวโน้มที่ใกล้เคียงกันนี้ได้เกิดขึ้นกับสมุยเช่นกัน โดยในปี 2550 มูลค่าการซื้อขายที่ดินในสมุยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 413 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเฉลี่ยในปี 2549 ซึ่งมีมูลค่า 450 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ในช่วงหลังการเลือกตั้ง รายงานการขอเยี่ยมชมและการจองซื้อบ้านพักตากอากาศจากฝ่ายซื้อขายที่พักอาศัยของซีบี ริชาร์ด เอลลิส ได้แสดงให้เห็นว่ามีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับราคาที่ดินตามบริเวณชายฝั่งทะเลของไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และชี้ให้เห็นึถึงจุดแข็งและอนาคตในระยะยาวของตลาด จากรายงานการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์เมื่อเร็วๆนี้พบว่า ราคาที่ดินในภูเก็ตโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นถึง 160 % ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งราคาที่ดินในสมุยก็ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย แปลงที่ดินติดชายหาดบนชายฝั่งด้านตะวันตกของภูเก็ตในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 21 ถึง 50 ล้านบาทต่อไร่ ยกเว้นที่ดินบริเวณป่าตอง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีการซื้อขายสูงถึง 200 ล้านบาทต่อไร่ ในขณะที่แปลงที่ดินติดชายหาดในสมุยก็มีราคาใกล้เคียงกับในภูเก็ตที่ 15 ล้านบาทต่อไร่ในปัจจุบัน
“ตลาดบ้านพักตากอากาศของไทยยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากปริมาณการสอบถามจากลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นดดยผ่านสาขาของซีบี ริชาร์ด เอลลิส ในแหล่งที่พักตากอากาศทั้ง 3 แห่ง เราเห็นว่าตลาดภูเก็ตมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยวนี้ และทีมงานฝ่ายขายของเราก็สามารถปิดการขายได้เป็นจำนวนมาก” นางสาวชาร์ลอต ฟิลเลอร์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายซื้อขายบ้านพักตากอากาศของ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าว
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ตไม่ได้ถูกจำกัดเพียงตลาดในระดับภูมิภาคอีกต่อไป การมุ่งเน้นพัฒนาโครงการหรูที่เพิ่มมากขึ้นได้ทำให้ความน่าสนใจของภูเก็ตขยายไปสู่ตลาดโลก การเติบโตของธุรกิจเรือยอชต์และท่าเทียบเรือในภูเก็ตเป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งในการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาและวางตำแหน่งให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางของการเล่นเรือยอชต์ในภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบันภูเก็ตมีที่จอดเรือยอชต์ทั้งสิ้น 800 ลำ และมีท่าเทียบเรือ 5 แห่ง และในสัปดาห์นี้มีเรือยอชต์ระดับหรูแล่นอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 5 ลำ ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่ารูปแบบการใช้ชีวิตระดับสากลที่ภูเก็ตมีให้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูในภูเก็ตนั่นเอง
จากโครงการวิลล่าจำนวน 124 โครงการที่กำลังทำตลาดอยู่ในภูเก็ตพบว่า ตลาดระดับบน (ราคาสูงกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ) มีจำนวนน้อยกว่า 15% ของวิลล่าทั้งหมดในตลาด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ววิลล่าระดับหรูก็ยังคงมีจำนวนจำกัด แต่การที่มีโครงการเพิ่มขึ้นในตลาดทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้นในการมองหาบ้านที่ตรงกับความต้องการ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ได้รับการสอบถามอย่างจริงจังจากลูกค้าอย่างน้อย 500 รายในการมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาอยู่ในช่วง 2 ถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อนั้นยังไม่สามารถหาสินค้าที่ถูกใจได้
ตลาดวิลล่าในภูเก็ตมีผลการดำเนินงานที่ดีและมีอสังหาริมทรัพย์ที่การก่อสร้างแล้วเสร็จเหลือขายเพียงไม่มากนัก โครงการเคป เซียนนา บนชายฝั่งกมลาเป็นโครงการภายใต้การบริการงานขายโดยซีบี ริชาร์ด เอลลิสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโครงการหนึ่งในปี 2550 วิลล่าทั้ง 10 หลัง ถูกจับจองหมดตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โ ครงการสายสวรรค์บนหาดบางเทาเป็นอีกหนึ่งโครงการวิลล่าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นซึ่งจะเปิดตัวในปี 2551 โครงการสายสวรรค์ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตริมชายหาดได้อย่างดีที่สุดสำหรับตลาดหรูในระดับโลก ภายในวิลล่าขนาด 4 ห้องนอน ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 25 เมตร ห้องออกกำลังกาย พร้อมสปาส่วนตัว และการบริการเฉพาะบุคคล โครงการนี้พัฒนาขึ้นด้วยมาตรฐานที่สูงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ตกดิน พื้นที่หน้าหาดอันกว้างขวาง ความสะดวกสบายในการเดินทาง และการออกแบบ
ด้านพังงาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูเก็ต (Greater Phuket) กำลังกลายเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการพัฒนาโครงการ เนื่องจากเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทางหนึ่งที่นอกเหนือไปจากชายหาดที่พลุกพล่านในภูเก็ตบางแห่ง มีโครงการที่มีแผนจะพัฒนาตามแนวชายฝั่งด้านนี้ของอันดามันเพิ่มมากขึ้น จากบริเวณหาดนาใต้ ซึ่งข้ามมาจากกับสะพานสารสิน ในภูเก็ต และขยายขึ้นไปถึงบริเวณท้ายเหมือง ความสวยงามของบริเวณดังกล่าวและการมีทำเลใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ต เป็นปัจจัยดึงดูดที่สำคัญสำหรับทั้งนักลงทุนชาวต่างชาติและชาวไทยที่มีต่อการเจริญเติบโตของพังงา
ในปี 2550 ซีบี ริชาร์ด เอลลิส สามารถปิดการขายที่ดินขนาดใหญ่ 3 แห่งในพังงา อาทิ ที่ดินขนาด 193 ไร่ เป็นเจ้าของโดยกลุ่มคิงดอม โฮเทลส์ อินเวสเมนต์ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการราฟเฟิลส์ รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนเซส ส่วนการปิดการขายที่ดินในทำเลอื่นนั้นรวมถึง สนามกอล์ฟท้ายเหมือง ซึ่งเป็นหนึ่ง ในการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของภูเก็ตในปีนี้ พื้นที่กว้างขวางขนาด 1,000 ไร่นี้จะได้รับการพัฒนาใหม่ให้เป็นรีสอร์ทที่มีการใช้ประโยชน์หลากหลายรูปแบบ
“ในปีนี้พังงาเป็นสถานที่ที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังคงมีพื้นที่ชั้นเยี่ยมเหลืออยู่และเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการรีสอร์ทขนาดใหญ่ในราคาที่ถูกกว่าพัฒนาในภูเก็ตเป็นอย่างมาก แปลงที่ดินติดชายหาดในพังงามีราคาระหว่าง 5 ถึง 20 ล้านบาทต่อไร่ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดแปลงที่ดิน ในขณะที่ในภูเก็ตเป็นไปได้ยากที่จะหาซื้อแปลงที่ดินติดชายหาด เนื่องจากแปลงที่ดินชั้นดีดดยส่วนใหญ่ได้ถูกจับจองและพัฒนาไปเรียบร้อยแล้ว” นางสาวขนิษฐา จารุกีรติ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนและที่ดิน ประจำซีบี ริชาร์ด เอลลิส สาขาภูเก็ต กล่าว
นอกจากนี้ ตลาดวิลล่าระดับหรูในสมุยกำลังตามติดตลาดภูเก็ตมาอย่างใกล้ชิด แม้ว่า 70% ของวิลล่าในสมุยมีราคาต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ซีบี ริชาร์ด เอลลิสก็ยังเห็นว่ามีการเปิดโครงการใหม่ที่มีระดับราคาระหว่าง 2 ถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐมากขึ้น ในขณะที่ตลาดวิลล่าระดับหรูเกิดขึ้นในสมุย ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าราคากำลังปรับตัวสูงขึ้นในระดับที่เกือบเทียบเท่าภูเก็ต โดยเฉพาะโครงการระดับบนสุดของตลาด
การเคลื่อนไหวของตลาดสมุยที่ดีอีกประการหนึ่งก็คือ การเข้ามาของผู้ประกอบการชาวไทยที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการร่วมทุนกับชาวต่างชาติ ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการหลายรายใน สมุยเป็นบริษัทขนาดเล็กและมักจะมีเงินทุนไม่เพียงพอ การเข้ามาของแบรนด์โรงแรมระดับสากล อาทิ ดับเบิลยู คอนราด โฟร์ซีซั่นส์ และพาร์คไฮแอท เป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับภูเก็ตและดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพให้เข้ามา ตามปกติแล้วสมุยมักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ซีบี ริชาร์ด เอลลิส คาดว่า ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะมีปริมาณที่พักอาศัยที่มีแบรนด์เพิ่มมากขึ้น สำหรับในภูเก็ต หนึ่งในโครงการที่พักอาศัยที่มีแบรนด์ซึ่งกำลังได้รับการพัฒนาก็คือ แชงกรีล่า วิลล่า บริเวณหาดบางเทา ส่วนโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ ทาจ เอ็กโซติกา บนเกาะโหลน พาร์ค ไฮแอทและแคปเปลล่า บริเวณอ่าวมรกต โฟร์ซีซั่นส์ บริเวณหาดราไว และดุสิต แอนด์ ราฟเฟิลส์ เรสซิเดนเซสในพังงา สำหรับแนวโน้มตลาดของสมุยกำลังเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูเก็ต โดยจะมีการเปิดโครงการดิ เอสเตท แอท โฟร์ซีซั่นส์ และโครงการคอนราด เรสซิเดนเซส ทั้งนัเหนึ่งในโครงการที่มีความหรูหรามากที่สุดของสมุยที่จะมีการเปิดตัวในปี 2551 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ซีบี ริชาร์ด เอลลิสคือ โครงการดับเบิลยู รีทรีท แอนด์ เรสซิเดนเซส ซึ่งจะมีราคาขายระหว่าง 60 ถึง 205 ล้านบาท และอีกหนึ่งโครงการหรูในสมุยที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนคือ โครงการพาร์ค ไฮแอท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวท้องกรูด
แม้ดูเหมือนว่าจะมีโครงการที่พักอาศัยที่มีแบรนด์จะหลั่งไหลเข้ามามาก ทว่าในความเป็นจริงจำนวนยูนิตในแต่ละปียังคงมีจำกัด ลักษณะเฉพาะตัวของโครงการที่พักอาศัยที่มีแบรนด์มักจะมีข้อกำหนดในเรื่องจำนวนยูนิตและโครงการลักษณะนี้จำเป็นต้องเห็นลักษณะการออกแบบทั้งโครงการ ดังนั้น ซีบี ริชาร์ด เอลลิส จึงไม่คาดหวังให้ทุกโครงการเข้ามาทำตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน จากการเปิดตัวโครงการใหม่และปริมาณความต้องการที่มีมาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าตลาดจะสามารถเติบโตไปได้ด้วยดีและดูดซับปริมาณซัพพลายใหม่ได้ในระยะยาว นอกจากนี้ การผสานแบรนด์ระดับหรูเข้ากับโครงการที่พักอาศัยยังจะช่วยเสริมสร้างสถานะของภูเก็ตและสมุยในตลาดบ้านพักตากอากาศระดับสากลให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
หากมองในปี 2551 ซีบี ริชาร์ด เอลลิส คาดว่าตลาดบ้านพักตากอากาศของไทยจะมีการเติบโตในระยะยาว การเลือกตั้งที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ได้แสดงให้เห็นถึงการกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยและ ทำให้ประเทศกลับเข้าสู่เส้นทางการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเมือง “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ถดถอยลงไปในปี 2550 ทว่าแม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศไทยได้มากนัก แต่เราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งจากรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งว่าจะมีนโยบายที่ชัดเจนและเป็นผลดีต่อการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งน่าจะมีบทบาทที่สำคัญในการเรียกความมั่นใจกลับคืนมาสู่ตลาด” นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธานบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส
ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (NYSE:CBG) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้บริการแบบครบวงจร มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครลอสแองเจลลิส พร้อมด้วยบุคลากร 29,000 คนในสำนักงานมากกว่า 300 สาขาที่ให้บริการแก่เจ้าของโครงการ นักลงทุน และผู้ซื้อรายย่อยทั่วโลก
ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกในกรุงเทพมหนครเมื่อปีพ.ศ.2531 ขยายไปสู่สาขาภูเก็ตในปีพ.ศ. 2547 สาขาเกาะสมุยและสาขาพัทยาในปี 2550 โดยให้บริการด้านการเป็นตัวแทนในการซื้อขาย และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน คอนโดมิเนียม วิลล่า อพาร์ตเมนท์ เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ อาคารสำนักงาน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอุตสาหกรรม โรงแรม ที่ดิน และให้บริการด้านการให้คำปรึกษา ซึ่งรวมถึง การให้บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การวิจัยตลาด และการประเมินราคาทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังให้บริการในด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ด้วยมาตรฐานระดับสากล หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการ สามารถเข้าชมได้ที่ www.cbre.co.th
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติ่ม:นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธานบริษัท - สาขาประเทศไทย02 654 1111
นางสาวงามใจ เจียรจรัสผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร02 654 1111 ต่อ 522

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ