กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 15 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,289.10-1,293.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,500 บาทต่อบาททองคำ ปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,580 บาท ปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,670 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 15/01/62)
แนวโน้มวันที่ 16 มกราคม 2562
ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงลง กดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่า ประกอบกับคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อันเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง นอกจากนี้ นายริชาร์ด คลาริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดมีแนวโน้ม "อดทน" ในการตัดสินใจนโยบายในปีนี้ สอดคล้องกับ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดและเจ้าหน้าที่อื่นๆเน้นย้ำท่าทีแบบรอดูสถานการณ์มากขึ้นท่ามกลางภาวะผันผวนของตลาดและความกังวลถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีน, ญี่ปุ่น และยุโรป อาจกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ปฏิเสธที่จะทำตามคำแนะนำของนายลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ที่เรียกร้องให้เปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาเรื่องงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่สถานการณ์ที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐต้องปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือ ชัตดาวน์นั้น ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 24 แล้ว อย่างไรก็ตามราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนจับตาความคืบหน้าประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับเบร็กซิท ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษจะต้องชนะการลงมติในรัฐสภาเพื่อให้ข้อตกลงเบร็กซิทของเธอได้รับอนุมัติ มิฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยงที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป(EU)ด้วยความยุ่งเหยิง ซึ่งอาจกดดันสกุลเงินปอนด์และราคาทองคำ ขณะที่จำนวนผู้สนับสนุนนายกฯเมย์มีไม่มากนัก และดูเหมือนว่าเธอมีโอกาสน้อยมากที่จะชนะการลงมติ โดยนายกฯเมย์จำเป็นต้องได้รับคะแนนเสียง 318 เสียงในการได้รับชัยชนะ ซึ่งจะทราบผลการลงมติประมาณ 03.00-04.00 น. ของเช้ามืดวันพุธ ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐสภาอังกฤษจะคว่ำร่างข้อตกลง Brexit แต่รัฐบาลของนางเมย์ยังคงมีโอกาสครั้งที่ 2 ในการเสนอแผน Brexit ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ภายในวันที่ 18 ม.ค. แต่ก็ยังไม่มีการรับประกันว่าแผนดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภา สำหรับมุมมองประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาอาจมีการอ่อนตัวลงมา แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอการตั้งฐานของราคาจึงเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวเพื่อสะสมกำลัง โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,299 หรือ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,276 (19,200บาท) 1,265 (19,050บาท) 1,256 (18,900บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,600บาท) 1,309 (19,750บาท) 1,318 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,276 (19,380บาท) 1,265 (19,210บาท) 1,256 (19,070บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,720บาท) 1,309 (19,870บาท) 1,318 (20,010บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999