กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
แผนงานปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดจองจำนวน 33,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้จากธุรกิจการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย จำนวน 32,000 ล้านบาท และรายได้ค่าเช่าจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีก 5,000 ล้านบาท
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 2561 ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีหนี้เงินกู้สุทธิจำนวน 43,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ประมาณ 86% และมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.46%
ในปี 2561 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายจ่ายด้านการลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยประมาณ 6,000 ล้านบาท และรายจ่ายในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าประมาณ 4,000 ล้านบาท
สำหรับปี 2562 นั้น บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาทประกอบด้วยงบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยประมาณ 7,000 ล้านบาท และงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพี่อการให้เช่าอีกจำนวน 3,000 ล้านบาท
ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ขายอพาร์ทเมนท์ชื่อ The Domain Residence ในรัฐ แคลิฟอเนีย ในราคา 140 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,480 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนภาษีประมาณ 41.17 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,317 ล้านบาท ส่วนในปีใหม่นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขายโรงแรมอีก 1 แห่งเข้ากอง REIT นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็มีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวนประมาณ 12,000 ล้านบาท
และคาดว่า ณ. สิ้นปี 2562 บริษัทฯ จะมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นปี 2561
บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าหมายแผนการดำเนินงาน ในปี 2562 โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย (Booking) 33,000 ล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 32,000 ล้านบาท
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยสรุปดังนี้
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยปี 2561
ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมในปี 2561 จากตัวเลขโดยรวมของบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะประเภทจัดสรร ตั้งแต่ ม.ค.- พ.ย. 2561 ยอดบ้านจดทะเบียนเพิ่มประเภทจัดสรร มีจำนวนรวมทั้งหมด 90,694 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.2 % เทียบกับช่วงเวลา 11 เดือนของปี 60 (มีจำนวน 87,913 หน่วย) ประมาณการบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะที่จัดสรรที่เกิดขึ้นทั้งปี 2561 มีจำนวนรวม 97,800 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2560 (มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 94,159 หน่วย)
ข้อมูลเปรียบเทียบที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่ม
จำแนกตามประเภทดำเนินการ ระหว่าง ม.ค.- พ.ย. 2559 – 2561
จำแนกประเภท ม.ค.-พ.ย. ม.ค.-พ.ย. ม.ค.-พ.ย. ทั้งปี ประมาณการทั้งปี 2561P 2538*
2559 2560 2561 2560
สร้างเอง 20,348 18,885 19,081 20,403 20,900 32,118
จัดสรร 100,179 87,913 90,694 94,159 97,800 146,735
รวมทั้งหมด 120,527 106,798 109,775 114,562 118,700 178,753
เปลี่ยนแปลง 6.1% -11.4% 2.8% -9.5% 3.6% 27.7%
ที่มา : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ , p. ประมาณการ
* ปี 2538 เป็นปีที่บ้านจดทะเบียนสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา
** % การเปลี่ยนแปลงของปี 2558 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า
บ้านจดทะเบียนเพิ่ม เฉพาะประเภทจัดสรร ในช่วง 11 เดือนของปี 2561 และประมาณการรวมของปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2560 จำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
- ประเภทบ้านเดี่ยว ในช่วง 11 เดือน มีจำนวนรวม 13,396 หน่วย เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 60 (มีจำนวน 11,190 หน่วย) ประมาณการรวมทั้งปี 61 มีจำนวนรวม 14,820 หน่วย เพิ่มขึ้น 18.8% เทียบกับทั้งปี 60 (มีจำนวนรวม 12,471 หน่วย)
- ประเภทบ้านแฝด ในช่วง 11 เดือน มีจำนวนรวม 1,423 หน่วย ลดลง 29.9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 60 (มีจำนวน 2,029 หน่วย) ประมาณการรวมทั้งปี 61 มีจำนวนรวม 1,580 หน่วย ลดลง 32.8 % เทียบกับทั้งปี 60 (มีจำนวนรวม 2,352 หน่วย)
- ประเภททาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์ ในช่วง 11 เดือน มีจำนวนรวม 18,658 หน่วย เพิ่มขึ้น 23.2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 60 (มีจำนวน 15,139 หน่วย) ประมาณการรวมทั้งปี 61 มีจำนวนรวม 19,900 หน่วย เพิ่มขึ้น 24.2% เทียบกับทั้งปี 60 (มีจำนวนรวม 16,017 หน่วย)
- ประเภทคอนโดมิเนียม ในช่วง 11 เดือน มีจำนวนรวม 57,217 หน่วย ลดลง 3.9% เทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 60 (มีจำนวน 59,555 หน่วย) ประมาณการรวมทั้งปี 61 มีจำนวนรวม 61,500 หน่วย ลดลง 2.9% เทียบกับทั้งปี 60 ทั้งปี มีจำนวนรวม 63,319 หน่วย)
ข้อมูลเปรียบเทียบที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่ม
จำแนกตามประเภทจัดสรร ระหว่าง ม.ค. – พ.ย. 2559 - 2561
บ้านจดทะเบียนเพิ่ม ม.ค.-พ.ย. ม.ค.-พ.ย. ม.ค.-พ.ย. ทั้งปี ประมาณการทั้งปี 2561P ** 2538
จำแนกตามประเภทจัดสรร 2559 2560 2561 2560
บ้านเดี่ยว 11,772 11,190 13,396 12,471 14,820 20,793
% การเปลี่ยนแปลง 5.1% -4.9% 19.7% -2.1% 18.8% 16.4%
บ้านแฝด 1,665 2,029 1,423 2,352 1,580 938
% การเปลี่ยนแปลง -15.3% 21.9% -29.9% 24.1% -32.8% 336.3%
ทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์ 15,538 15,139 18,658 16,017 19,900 58,093
% การเปลี่ยนแปลง -13.6% -2.6% 23.2% -6.4% 24.2% 16.0%
คอนโดมิเนียม 71,204 59,555 57,217 63,319 61,500 66,911
% การเปลี่ยนแปลง 15.5% -16.4% -3.9% -13.1% -2.9% -1.5%
รวมทั้งหมดประเภทจัดสรร 100,179 87,913 90,694 94,159 97,800 146,735
% การเปลี่ยนแปลง 7.9% -12.2% 3.2% -10.0% 3.9% 7.8%
ที่มา : ธนาคารอาคารสงเคราะห์,** ปี 2538 เป็นปีที่บ้านจดทะเบียนสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา
* % การเปลี่ยนแปลง เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า , *p เป็นตัวเลขประมาณการ
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561 มีสัดส่วน แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย และระดับราคา ได้ดังนี้
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย แบ่งตามสัดส่วนระดับราคา
ประเภทที่อยู่อาศัย สัดส่วน ระดับราคา สัดส่วน
บ้านเดี่ยว 71% ต่ำกว่า2.0ล้านบาท 1%
ทาวน์เฮ้าส์ 12% 2.0 - 4.0 ล้านบาท 15%
คอนโดมิเนียม 17 % 4.01 - 6.0 ล้านบาท 20%
6.01 – 10.0 ล้านบาท 18%
10.01 – 25.0 ล้านบาท 25%
มากกว่า25.0ล้านบาท 21%
รวม 100% 100%
สัดส่วนใน กทม.และปริมณฑล 89%
สัดส่วนต่างจังหวัด 11%
ในปี 2561 ณ ต้นปี บริษัทฯ มีจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการ จำนวนทั้งรวมสิ้น 68 โครงการ เป็นโครงการในกทม. และปริมณฑล 40 โครงการ ต่างจังหวัด 28 โครงการ รวมโครงการที่เปิดใหม่ ระหว่างปี 12 โครงการ รวมโครงการที่เปิดดำเนินการในปี 61 มีจำนวนทั้งหมด 80 โครงการ สำหรับโครงการที่เปิดใหม่ 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,110 ล้านบาท
จำแนกเป็น
- โครงการบ้านเดี่ยว 6 โครงการ (บ้านแฝดนับเป็นบ้านเดี่ยว)
- โครงการทาวน์โฮม 5 โครงการ (ในโครงการที่ Mix สินค้า นับแยกออกตามประเภทสินค้า นับซ้ำโครงการ)
- โครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ
แสดงจำนวนโครงการที่ดำเนินการระหว่างปี 2561 – 2562
ณ ต้น ม.ค. ปี 2561 2562*e
จำนวนโครงการทั้งหมด 68 70
กทม. และปริมณฑล 40 42
ต่างจังหวัด 28 28
โครงการเปิดใหม่ทั้งหมดระหว่างปี 12 16
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 10 14
ต่างจังหวัด 2 2
มูลค่าโครงการ (ล้านบาท) 23,110 29,960
รวมโครงการที่ดำเนินการทั้งหมดในปี 80 86
หมายเหตุ โครงการ มหาชัย และ นครปฐม อยู่ใน กทม. และปริมณฑล
ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ตามจำนวนหลัง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยอดรวมสะสมตั้งแต่ ม.ค. – พ.ย. 61 แบ่งจำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย เป็นดังนี้
- ตลาดบ้านเดี่ยว บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 10.6 %
- ตลาดบ้านแฝด บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 13.7 %
- ตลาดทาวน์เฮ้าส์ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 3.5%
- ตลาดคอนโดมิเนียม บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 1.2%
ในส่วนของการดำเนินงานของบริษัท LH USA. ในปีที่ผ่านมา ได้ขายอพาร์ทเมนท์ชื่อ The Domain Residence ในรัฐแคลิฟอเนีย ในราคา 140 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,480 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนภาษีประมาณ 41.17 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,317 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัท LH USA . มีจำนวนโครงการทั้งหมด 4 โครงการ
Project Yard Revere Mode Parce at
Pruneyard
Location Portland OR Campbell CA. San Mateo CA. Campbell CA.
# No. Units 284 168 111 252
Budgeted Occupancy 92% 96% 95% 67%(Lease-Up)
Project IRR 10% 9% 9% 9.3%
และการดำเนินงานของบริษัท LHMH ในปี 61 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดโครงการ Terminal 21 พัทยา รูปแบบ Mixed Use ประกอบด้วยโรงแรม และ Shopping Mall โดยมีรายละเอียดโครงการดังนี้ พื้นทีโครงการ 32.84 ไร่ มูลค่าการลงทุน 5,587 ล้านบาท จำนวนห้องพัก 396 ห้อง พื้นที่ Retail 42,000 ตารางเมตร
แผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562
ณ ต้นปี 2562 บริษัทฯมีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 70 โครงการ โดยเป็นโครงการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 42 โครงการ และต่างจังหวัด 28 โครงการ และในปี 2562 นี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงานเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 29,960 ล้านบาท แบ่งแยกเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 14 โครงการ และต่างจังหวัด โครงการ ทั้งนี้หากแบ่งตามประเภทของที่อยู่อาศัยได้ดังนี้
- โครงการบ้านเดี่ยว 11 โครงการ (บ้านแฝด นับรวมเป็นบ้านเดี่ยว)
- โครงการทาวน์เฮ้าส์ 6 โครงการ (ในโครงการที่ Mix นับแยกออกตามประเภทสินค้า นับซ้ำโครงการ)
- คอนโดมิเนียม - โครงการ
รวมจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้นในปี 2562 ทั้งหมด 86 โครงการ
สัดส่วนของยอดขายรวม (Booking) ของปี 2562 มีรายละเอียดดังนี้
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย แบ่งตามสัดส่วนระดับราคา
ประเภทที่อยู่อาศัย สัดส่วน ระดับราคา สัดส่วน
บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 72% ต่ำกว่า2.0ล้านบาท
ทาวน์เฮ้าส์ 8% 2.01 - 4.0 ล้านบาท 17%
คอนโดมิเนียม 20% 4.01 - 6.0 ล้านบาท 17%
6.01 – 10.0 ล้านบาท 19%
รวม 100% 10.01 – 25.0 ล้านบาท 27%
สัดส่วนใน กทม.และปริมณฑล 91% มากกว่า25.0ล้านบาท 20%
สัดส่วนต่างจังหวัด 9% รวม 100%
หมายเหตุ % สัดส่วน คำนวนตามมูลค่า
เป้าหมายยอดขายในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Booking) รวม 33,000 ล้านบาทและยอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่ารวม 32,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตที่ขายในปี 2562 เท่ากับ 7.3 ล้านบาท (ปี 2561 ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 7.3 ล้านบาท)
สำหรับสัดส่วนของยอดขาย ในปี 2562 พิจารณาตามมูลค่า จำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย มีสัดส่วน ดังนี้
- บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 72 % , ทาวน์เฮ้าส์ 8 % , คอนโดมิเนียม 20 % (รายละเอียดตามตารางข้างต้น)
ในส่วนของแผนการลงทุนในการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ในทำเลต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯปริมณฑล และต่างจังหวัด งบประมาณรวม 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้การพิจารณาซื้อที่ดิน บริษัทจะพิจารณาทำเลที่สามารถนำมาพัฒนาโครงการได้ทันทีและมีศักยภาพที่ดี
รายละเอียดโครงการเปิดใหม่ในปี 2562
โครงการ ประเภท ขนาดโครงการ จำนวนหลัง ราคาเฉลี่ย มูลต่า โครงการ ไตรมาสที่เปิดขาย
(ไร่) ทั้งหมด ต่อหลังล้านบาท ล้านบาท
1.ชัยพฤกษ์ รามอินทรา ทางด่วน จตุโชติ SH 98.5 398 7.5 3,000
2.นันทวัน รามอินทรา พหลโยธิน50 SH 98.1 212 24.5 5,200 Q1
3.มัณฑนา Westgate SH 93.7 293 15.0 4,400
4. Indy ปิ่นเกล้า สิรินธร TH 11.5 94 4.3 405
5.มัณฑนา บางนา กม.7 (2) SH 53.1 159 15.7 2,500 Q2
6. Indy อยุธยา TH 23.4 230 2.7 630
7. Viveเอกมัย รามอินทรา SH 17.3 48 47.9 2,300
8; Viveรัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ SH 20.4 34 32.9 1,120
9; Villaggio ประชาอุทิศ90 รวม 57.9 351 4.0 1,410
SH 16.5 77 5.6 430
Semi 41.4 274 3.6 980
10 .Indy รังสิต คลอง2 TH 20.1 198 2.8 550 Q3
11. Viveบางนา SH 25.4 49 29.6 1,450
12. Villaggio บางนา เทพารักษ์ รวม 63.1 342 4.6 1,570
SH 32.3 136 6.2 840
Semi 30.8 206 3.5 730
13.มัณฑนาSerene Lake เชียงใหม่ SH 47.4 78 17.0 1,330
14. Indy 3บางใหญ่ TH 34.7 353 3.6 1,270
15. Indy บางนา สวนหลวง TH 39 385 3.7 1,425 Q4
16. Villaggio ศรีนครินทร์ บางนา รวม 50.5 307 4.6 1,400
SH 34.0 128 6.5 830
TH 16.5 179 3.2 570
รวมทั้งหมด 754.5 3,531 8.5 29,960