กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 17 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,290.90-1,295.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,540 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,480 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.06 น. ของวันที่ 17/01/62)
แนวโน้มวันที่ 18 มกราคม 2562
ธนาคารกลางจีนจะอัดฉีดเงินสดครั้งใหญ่อีกครั้งในการดำเนินการผ่านตลาดการเงิน หลังการอัดฉีดสภาพคล่องสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันก่อน เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงภาวะเงินสดตึงตัวก่อนช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณการออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน แนวโน้มดังกล่าว กดดันสกุลเงินหยวนร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ประกอบกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังไม่ยุติ กระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยจนกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ กลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐจากทั้ง 2 พรรคเสนอร่างกฎหมายที่จะสั่งห้ามจำหน่ายชิพหรือชิ้นส่วนอื่นๆของสหรัฐ แก่บริษัท Huawei Technologies Co Ltd และ บริษัทโทรคมนาคมของจีนอื่นๆ ที่ละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐ ขณะที่นสพ.วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า อัยการสหรัฐสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า Huawei ขโมยความลับทางการค้า และอาจจะมีการฟ้องร้องในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอของจีน จะเดินทางเยือนสหรัฐในวันที่ 30-31 ม.ค. เพื่อร่วมการเจรจาการค้ารอบหน้ากับสหรัฐ โดยนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ยืนยันการเดินทางเยือนของนายหลิวในระหว่างการแถลงข่าวรายสัปดาห์ ส่วนทางด้านราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าหลังจากตลาดเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยง เมื่อนักลงทุนคลายความกังวลและหยุดขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกลงบ้าง ซึ่งหนุนให้สกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่แข็งค่าขึ้น โดยค่าเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 8 เดือนครั้งใหม่ที่ 31.42 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มค่าเงินบาทมีแนวโน้มค่อยๆแข็งค่าขึ้น หลังจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย วายแอลจีแนะนำว่าหากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านที่บริเวณ 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถทะลุผ่านกรอบบนไปได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและทรงตัวในระดับสูง โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,276 (19,100บาท) 1,265 (18,950บาท) 1,256 (18,800บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,500บาท) 1,309 (19,650บาท) 1,318 (19,800บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,276 (19,290บาท) 1,265 (19,120บาท) 1,256 (18,990บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,640บาท) 1,309 (19,790บาท) 1,318 (19,920บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999