กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--Good Media Creation
"โปรแจ้ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงทำเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสามวันมี 12 อันเดอร์พาร์201 รั้งอันดับ 2 ร่วม ไล่จี้ผู้นำสโตรกเดียว ในศึกดวลวงสวิงเอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพน ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 32 ล้านบาท ที่เซนโตซา กอล์ฟคลับ เซราปง คอร์ส ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 19มกราคม
รายการนี้เป็นศึกโคแซงชั่น ระหว่างเอเชียนทัวร์และเจแปน กอล์ฟทัวร์ และเป็นแมตช์เปิดฤดูกาลของทั้ง 2ทัวร์ โดยในการแข่งขันรอบที่สาม ผลปรากฏว่า โยชิโมริ ฟูจิโมโตะ โปรกอล์ฟจากญี่ปุ่นผู้นำหลังจบรอบสอง ยังยึดตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้เมื่อบวกเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสามวัน 13 อันเดอร์พาร์ 200
ด้าน "โปรแจ้ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ โปรหนุ่มไทยเจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ 2 รายการ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบที่สามทำเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ 65 จากการเก็บ 6 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้เลย ซึ่งเป็นสกอร์ที่ดีที่สุดต่อรอบด้วย รวมสามวันมี 12 อันเดอร์พาร์ 201 เท่ากับแมทธิว ฟิตซ์แพทริก จากอังกฤษที่บวกเพิ่ม 5อันเดอร์พาร์ 66 รั้งอันดับ 2 ร่วม ตามหลังผู้นำสโตรกเดียว
โปรแจ๊ส กล่าวหลังการแข่งขันว่า วันนี้เล่นไปทั้งหมด 27 หลุม เพราะต้องมาเก็บตกรอบสองในช่วงเช้า 9 หลุมโดยปิดฉากด้วยการทำ 3 เบอร์ดี้ติดใน 3 หลุมสุดท้าย ทำให้มีกำลังใจดีในการเล่นรอบสามและทำได้ดี สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการลุ้นเป็น 1 ใน 4 นักกอล์ฟที่จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นรายการเมเจอร์ ดิ โอเพน แชมเปียนชิพ นั่นคือเป้าหมายแรกของตน รายการนี้มีนักกอล์ฟฝีมือดีมากมาย และมีหลายคนที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ จึงไม่อยากตั้งเป้าว่าต้องได้แชมป์เพื่อกดดันตัวเอง แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด การให้ความสำคัญกับการไปเล่น ดิ โอเพน เพราะจากการได้ไปแข่งขันในศึกเมเจอร์รายการนี้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดี และได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ซึ่งช่วยพัฒนาเกมการเล่นให้ดีขึ้น
ส่วน"โปรโจ๊ก" ชัพชัย นิราช โปรกอล์ฟวัย 35 ปีจากพิษณุโลก ทำผลงานดีเช่นกันโดยหวดเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์66 ในรอบที่สาม โดยเก็บได้ 7 เบอร์ดี้เสีย 2 โบกี้ สกอร์รวมสามวัน 10 อันเดอร์พาร์ 203 อยู่อันดับ 4 ร่วมกับ พอล เคซีย์ มืออันดับ 24 ของโลกจากอังกฤษ และโปรจากเกาหลีใต้
ชัพชัยกล่าวเปิดใจภายหลังว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา รู้ว่ารอบที่สามธงยาก จึงพยายามเล่นเซฟ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นที่หลุม 10 หลังพัตต์เบอร์ดี้ไกลจากระยะ 15 ฟุตลงไปและเป็นจุดเริ่มต้นการทำ 4 เบอร์ดี้ติดต่อกัน โดยรอบนี้เล่นก๊วนเดียวกับเซอร์จิโอ การ์เซีย บิ๊กเนมจากสเปน มีผู้ชมตามเชียร์จำนวนมาก แต่ตนก็พยายามมุ่งมั่นกับเกมตัวเองและคุยกับแค้ดดี้เพื่อผ่อนคลาย สำหรับการแข่งขันรอบสุดท้ายจะพยายามสนุกกับการเล่นกอล์ฟไม่คาดหวังอะไรมาก
ทางด้าน ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ ผู้นำร่วมรอบแรก บวกเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสามวันมี 9 อันเดอร์พาร์ 204 อยู่อันดับ 7 ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์เช่นกัน ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ กัญจน์ เจริญกุล บวกเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสามวันมี 7 อันเดอร์พาร์ 206 รั้งอันดับ 8 "โปรหมาย" ประหยัด มากแสง รอบนี้บวกเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวมสามวัน 6 อันเดอร์พาร์ 207ขยับมาอยู่อันดับ 9 ร่วมกับ พรหม มีสวัสดิ์ ส่วนพชร คงวัดใหม่ ทำเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสามวันมี 5อันเดอร์พาร์ 208 เท่ากับเซอร์จิโอ การ์เซีย แชมป์เก่าจากสเปน รั้งที่ 15 ร่วม
สำหรับกอล์ฟรายการเอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพน เป็นหนึ่งในซีรีส์ของการคัดเลือกของศึกเมเจอร์ รายการ ดิ โอเพน แชมเปียนชิพ โดยจะคัดเอา 4 นักกอล์ฟที่อันดับดีที่สุด (ที่ยังไม่ได้สิทธิ์ไปแข่ง ดิ โอเพน) ที่จบผลงานใน 12 อันดับแรกของรายการไปแข่งขันในศึก ดิ โอเพน แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 148 ที่สนามรอยัล พอร์ตรัช กอล์ฟ คลับ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย