กทม.เตรียมขันน็อตเพิ่มประสิทธิภาพระบบรับร้องทุกข์ 1555 รูปแบบใหม่

ข่าวทั่วไป Friday January 18, 2008 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--กปส.
ผู้ว่าฯ อภิรักษ์หารือการเพิ่มช่องทางร้องทุกข์เชิงรุก จัดทีมมอเตอร์โซค์โมบายรุกตรวจสอบพื้นที่ พร้อมใช้แผนที่ GIS บันทึกข้อมูลพื้นที่เขตทุกตารางนิ้ว เชื่อมโยงทุกบริการแก้ปัญหาทั้งด้านกายภาพและคุณภาพชีวิต เตรียมเปิดรับแจ้งทาง MMS และSMS และหารือธนาคาร สถาบันการเงิน นำร่องเปิดบริการรับร้องทุกข์ผ่านตู้ ATM
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามงานรับเรื่องร้องทุกข์ 1555 และหน่วยบริการเร่งด่วน (Bangkok Emergency Service Team : BEST) หรือหน่วยเบสท์ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการรับเรื่อง ระบบการให้บริการ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สู่การทำให้กทม.เป็นองค์การด้านบริการที่ดีที่สุด
จัดหน่วยมอเตอร์ไซค์ซ่อมบำรุง พร้อมนำ GIS ช่วยตรวจสอบพื้นที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กทม.จะปรับปรุงการให้บริการรับเรื่องร้องทุกข์เชิงรุกมากขึ้น โดยจะจัดทีมเคลื่อนที่โดยใช้รถจักรยานยนต์เข้าไปตรวจยังพื้นที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีการร้องขอ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำฐานข้อมูล GIS ของ กทม. จัดทำระบบแผนที่เพื่อให้ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต และหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลทั้งหมดในพื้นที่ของตนเอง ได้แก่ ถนน โรงเรียน วัด ชุมชน สถานที่ราชการ อีกทั้งตรวจสอบปัญหาภายในพื้นที่ อาทิ ถนนชำรุด น้ำท่วมขัง ไฟฟ้าแสงสว่างไม่เพียงพอ มีขยะตกค้าง เพื่อแก้ไขปัญหาทันที
เชื่อมโยง 1555 กับหน่วย Health Best กทม. ให้คำปรึกษาสุขภาพของประชาชน
นอกจากนี้ กทม.จะจัดบริการพิเศษ ซึ่งเป็นบริการใหม่เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด โดยนำปัญหาที่ประชาชนแจ้งเข้ามาจำแนกรายละเอียดและเจาะลึกถึงปัญหา ซึ่งหากเรื่องใดเร่งด่วน ฉุกเฉิน และแก้ไขทันที ไม่เฉพาะปัญหาด้านกายภาพ เช่น ถนนเป็นหลุมบ่อ หรือไฟฟ้าชำรุด เท่านั้น แต่จะรวมถึงปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิต เนื่องจากสถิติการรับเรื่องร้องทุกข์ผ่าน สายด่วน กทม.1555 นั้น เป็นเรื่องร้องทุกข์จริง 18% อีก 82% เป็นการสอบถามข้อมูลและโทรศัพท์พูดคุยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปัญหาด้านกายภาพ ซึ่งกทม.จะเชื่อมโยง 1555 กับหน่วย Health Best ของสำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ในการให้คำปรึกษาและดูแลสุขภาพของประชาชน หรือการให้บริการรถพยาบาล เป็นต้น ซึ่งในเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครสัปดาห์ต่อไป
เตรียมเปิดรับร้องทุกข์ผ่านระบบ MMS , SMS และผ่านตู้ ATM
ศูนย์รับร้องทุกข์กรุงเทพมหานคร เตรียมเปิดรับเรื่องร้องทุกข์ผ่านระบบ MMS ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลภาพและข้อความ และระบบ SMS เนื่องจากมีโทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกและรวดเร็ว โดยกทม.จะจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อรับเรื่องและส่งข้อมูลกลับไปยังผู้แจ้งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ นอกจากนี้จะได้หารือกับธนาคารและสถาบันการเงิน ในการนำร่องเปิดให้บริการรับเรื่องร้องทุกข์ โดยผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซึ่งเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงและมีอยู่ทุกพื้นที่ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการร้องทุกข์ ประชาชนสามารถเข้าถึงง่าย และสะดวกเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นบริการหนึ่งของธนาคารในการให้บริการลูกค้าด้วย โดยในอนาคตอาจจะแยกเป็นตู้เอทีเอ็มของกทม. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตและคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือหากประชาชนต้องการร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ และจุดบริการด่วนมหานคร หรือ express service เปิดให้บริการบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว
วิจัยวิถีชีวิตคนกรุงสู่การให้บริการรูปแบบใหม่ที่ตรงความต้องการ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า กทม.จะทำการศึกษาวิจัยวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ กลุ่มต่างๆ อาทิ คนขับรถแท็กซี่ วินจักรยานยนต์รับจ้าง พ่อค้า แม่ค้า วัยรุ่น ข้าราชการ นักธุรกิจ พนักงานเอกชน โดยจะศึกษาว่า กทม.จะเข้าไปมีส่วนให้บริการในชีวิตประจำวันแก่คนกรุงเทพฯ ได้อย่างไร โดยจะเป็นรูปแบบใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบเพื่อให้เข้าถึงความต้องการของประชาชนมากที่สุด นอกเหนือจากการทำงานเชิงนโยบาย 6 ด้าน ได้แก่ ด้านความปลอดภัย การจราจร ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และการศึกษา เพื่อสู่เป้าหมายสุดท้ายคือ การทำให้ กทม.ให้เป็นองค์การด้านบริการที่ดีที่สุด
สายด่วน 1555 พร้อมบริการ 120 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน กทม.เปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ ผ่านสายด่วน กทม.โทร 1555 จำนวน 120 คู่สายตลอด24 ชั่วโมง ซึ่งในปี 2550 มีเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 234,616 เรื่อง เป็นการสอบถามข้อมูลและพูดคุย 192,602 เรื่องคิดเป็น 82% และร้องทุกข์เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา 42,014 เรื่อง คิดเป็น 18% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากสถิติปี 48-49 มีจำนวนเรื่องร้องทุกข์ 20% ซึ่งจากปัญหาร้องทุกข์ดังกล่าว กทม.จึงได้ตั้งหน่วย BEST เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยจัดรถเคลื่อนที่พร้อมให้บริการจำนวน 132 คัน แบ่งเป็นพื้นที่เขต 102 คัน และกระจายไปยังหน่วยงาน ได้แก่ สำนักการโยธา สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งการจำแนกปัญหาที่พบ 5 อันดับแรกได้แก่ เหตุเดือนร้อนรำคาญ การกระทำผิดในที่สาธารณะ ท่อระบายน้ำชำรุด อุดตัน ไฟฟ้าแสงสว่าง และการแก้ไขปัญหาการจราจร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ