กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--บี.กริม เพาเวอร์
การแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศล "บีเอ็มดับเบิลยู - บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2019" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
กลุ่มบริษัท บี.กริม นำโดย ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน และในฐานะนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นันทินี แทนเนอร์ อุปนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าประเทศไทย ร่วมกับ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จำกัด ผู้สนับสนุนหลัก จัดการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลรายการ "บีเอ็มดับเบิลยู - บี.กริม ไทย โปโล โอเพ่น 2019" (BMW – B.Grimm Thai Polo Open 2019) ชิงถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รอบชิงชนะเลิศเพื่อหาแชมป์ประจำปี 2562 ระหว่างทีมเจ้าภาพไทย โปโล และทีม ลา ฟามิเลีย จากประเทศมาเลเซีย ณ สนามไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา
การแข่งขันขี่ม้าโปโล ไทย โปโล โอเพ่น 2019 เป็นการแข่งขันขี่ม้าโปโลการกุศลเปิดฤดูกาลที่โด่งดังรายการหนึ่งในเอเชียซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้เป็นการจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 โดยมี ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน กลุ่มบริษัท บี.กริมและนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานท่ามกลางธรรมชาติบนสนามแข่งม้าที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย โดยในปีนี้มีทีมโปโลฝีมือระดับเอเชียเข้าร่วมการแข่งขันรวม 4 ทีมได้แก่ 1.ทีมเจ้าภาพ ไทยโปโล (THAI POLO) ประเทศไทย 2. ทีม ลา ฟามิเลีย (LA FAMILIA) ประเทศมาเลเซีย 3. ทีมเอซุส (AXUS) ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ 4. ทีม 22 BR จากประเทศ ฮ่องกง โดยได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นเพื่อเก็บคะแนนระหว่างวันที่ 10, 12, 15 และ 17 มกราคมที่ผ่านมา
นับเป็นการแข่งขันกีฬาโปโลในระดับสูงที่สุดในประเทศไทย และเป็นสนามเก็บคะแนน 1 ใน 3 ของรายการ Royal Malaysian Polo Association International League 2019 ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมลา ฟามิเลีย เป็นผู้คว้าแชมป์ชนะทีมไทยโปโลไปด้วยคะแนน 4 ต่อ 3 คว้าถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ไปครอง ส่วนอันดับ 3 ทีม 22BR ประเทศฮ่องกง และอันดับ 4 ทีมเอซุส ประเทศสาธารณประชาชนจีน
นอกจากเป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาผู้เข้าแข่งขันระดับนานาชาติเพื่อแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ แล้วนั้น ยังเป็นการจัดงานเพื่อหารายได้เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ภายในงานยังเต็มไปด้วยสีสันสวยงามจากบรรดาแขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ใจบุญของเมืองไทยที่พร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมและชมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก อาทิ ลอเรนโซ่ กาลันติ เอกอัครราชทูตอิตาลีและภริยา, เมเอียร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลและภริยา, วี มาร์, ลี พึ่งบุญพระ,มาร์ค ธาวิน, แพมมี่ สิมะประเสริฐ, กัญจนา ฮ้อแสงชัย, พัปณิธิพัทธ์ พีรพัฒนกุล,พิมพ์ญาดา ศิริอริยไกรกุล, ภัทรพล สวัสดี ,เป็นต้น
ภายในงานมีกิจกรรมและซุ้มการกุศลต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงวงโยธวาทิตจากวงดุริยางค์โรงเรียนวัดสุทธิวราราม การแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) โดยนายกรธวัช สำราญ นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยทำคะแนนได้ดีที่สุดในรอบจั๊มออฟ การให้อาหารและขี่ม้าแคระ รวมถึงการเล่นเกมส์ชิงรางวัลที่นอกจากผู้ร่วมงานจะได้รับความสนุกสนานแล้วยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย ก่อนการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศจะเริ่มต้นขึ้นนั้น บรรดาผู้ชมและเหล่าเซเลบริตี้ทั้งหลายจะได้ร่วมสนุกกับประเพณีปฏิบัติของกีฬาขี่ม้าโปโลที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีเพื่อเตรียมความพร้อมของสนามสำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะเริ่มขึ้น ที่เรียกว่า สตอมปิ้ง ดิวอทส์ (Stomping Divots) ด้วยการไปร่วมย่ำพื้นสนามเพื่อกลบดินและหญ้าช่วยให้พื้นสนามเรียบและแน่นขึ้นและยังถือเป็นโอกาสให้บรรดาแขกที่มาร่วมงานได้อวดโฉมและพบปะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือการมอบรางวัลให้แก่เซเลบริตี้ที่ให้เกียรติมาเป็นสีสันในงาน โดยรางวัลประเภท Best Hat หมวกสวยงามอลังการได้แก่ Violet Gauthier และรางวัล Best Dress ผู้ที่แต่งตัวสวยงามได้แก่ สุโสฬสษา จ้าวจันทร์สกุล ปิดท้ายงานด้วยการแสดงพลุไฟสวยงามบนท้องฟ้าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืนและอิ่มอร่อยไปกับบาร์บีคิวดินเนอร์มื้อค่ำสุดพิเศษพร้อมวงดนตรีขับกล่อมในบรรยากาศเย็นย่ำที่น่าประทับใจนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง กิจกรรมแห่งการแบ่งปันที่สนุกและอิ่มเอมใจในคราวเดียวกัน