กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 22 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,277.10-1,284.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,450 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,360 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.26 น. ของวันที่ 22/01/62)
แนวโน้มวันที่ 23 มกราคม 2562
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2562 และ 2563 จากความอ่อนแอในยุโรปและตลาดเกิดใหม่บางแห่ง และระบุว่า ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความตึงเครียดทางการค้าอาจเพิ่มความไร้เสถียรภาพต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัว นอกจากนั้น IMF ยังระบุถึงความเสี่ยงของการชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ในจีน และเบร็กซิท "แบบไร้ข้อตกลง" ที่อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้นในตลาดการเงินต่างๆ แม้ว่าความมุมมองดังกล่าวจะกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ สกุลเงินยูโยยังคงถูกกดดัน ในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจมหาอำนาจในยุโรป เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส อยู่ในภาวะซบเซาและเงินเฟ้อยังคงอ่อนแอ โดยคาดกันในวงกว้างว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงนโยบายเชิงผ่อนคลายสำหรับปีนี้ ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำ ขณะที่แนวโน้มสกุลเงินปอนด์ยังคงอ่อนแอ ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงเล็กน้อยก่อนที่อังกฤษจะถอนตัวออกจาก EU ในวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งยังไม่มีข้อตกลงในอังกฤษเกี่ยวกับวิธีและยังไม่แน่ใจว่าอังกฤษควรถอนตัวจาก EU หรือไม่ อีกทั้งยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเกิดการถอนตัวแบบ "ไร้ข้อตกลง" โดยไม่มีการเตรียมการเพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกทางเศรษฐกิจ มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับ บริษัท UBS Wealth Management ระบุว่า ยังไม่แนะนำให้ซื้อเงินปอนด์ อันเป็นผลความไม่แน่นอนของเบร็กซิท พร้อมเสริมว่า การประกันความเสี่ยงในการลงทุนในเงินปอนด์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เป็นหนทางหนึ่งในการหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด ทั้งนี้ ในระยะสั้นแนะนำติดตามผลการประชุมโนบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพุธนี้ แม้ว่าคาดว่านโยบายการเงินของ BOJ จะยังคงอยู่ในเชิงผ่อนคลายอย่างสูง แต่คาดว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงและราคาน้ำมันที่ถูกกดดัน จะทำให้ BOJ ทบทวนปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเยนและสกุลเงินดอลลาร์ได้เช่นกัน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังมีโอกาสจะดีดตัวขึ้นได้ นักลงทุนจึงจำเป็นต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังขึ้นอยู่กับกระแสข่าว เป็นตัวนำทางราคาทองคำต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวลงค่อนข้างจำกัด ในระยะสั้นราคาอาจมีการอ่อนตัวลงบ้าง หากราคาทองคำมีการปรับลดลงทดสอบแนวรับและไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุดโซนดังกล่าว หากราคาทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ ราคาทองคำมีโอกาสดีดตัวกลับ และยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านโซน 1,290-1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,265 (19,000บาท) 1,256 (18,850บาท) 1,244 (18,700บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,400บาท) 1,299 (19,550บาท) 1,309 (19,700บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,265 (19,170บาท) 1,256 (19,040บาท) 1,244 (18,860บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,550บาท) 1,299 (19,690บาท) 1,309 (19,840บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999