กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
"ซี เอ แซด (ประเทศไทย)" นักลงทุนให้ความสนใจอย่างคึกคัก เข้ามาซื้อขายวันแรกดันราคาปิดสูงสุดต่อวันที่ระดับ 3.90 บาท ตอกย้ำพื้นฐานแข็งแกร่ง ลุยระดมทุน เพิ่มความสามารถการรับงานในอนาคต และใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแก่ธนาคาร พร้อมลงทุนซื้ออุปกรณ์ประกอบธุรกิจ-พัฒนาด้านไอที และเป็นเงินทุนหมุนเวียน พร้อมเผยนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุนบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ เปิดเผยว่า หุ้น CAZ ปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกที่ 3.90 บาท และเป็นการปิดการซื้อขายในราคาสูงสุดของวัน ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาเท่ากับราคาที่เปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงตลาดไอพีโอที่เริ่มกลับมา เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจในการเข้ามาทำการซื้อขายจำนวนมาก ทั้งนี้เชื่อว่า CAZ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ตลาดไอพีโอกลับมาคึกคักอีกรอบ
"โดยราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอของ CAZ มี P/E อยู่ที่ระดับ 19 เท่า นับว่าเป็นการตั้งราคาที่เหมาะสม เนื่องจากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 39.34 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากำไรสุทธิปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.17 ล้านบาท และบริษัทยังมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (backlog) อีกจำนวน 2,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 2562-2563 ทั้งนี้บริษัทยังสามารถเข้าประมูลงานเพิ่มเติมอีกในอนาคต"นายรัฐชัย กล่าว
ขณะที่นายซุง ซิก ฮอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีความยินดี และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแบบนี้ตลอดไป และในฐานะผู้บริหารจะตั้งใจทำงาน เพื่อให้ธุรกิจมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนทุกท่านต่อไปในอนาคต โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
โดย CAZ เป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการบริหารจัดการงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจรในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกขั้นตอน โดยช่องทางการรับงานมีทั้งการให้บริการตรงจากบริษัทเจ้าของโครงการ (Project Owner) และจากบริษัทผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) โดยการให้บริการส่วนใหญ่เป็นงานที่มีความซับซ้อน และมีมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เข้มงวด ทำให้ต้องอาศัยความชำนาญ ลักษณะงานและการบริการแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.บริการรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (Engineering, Procurement and Construction: EPC) 2.บริการรับเหมาก่อสร้างติดตั้งโครงสร้างและระบบ (Structural Mechanical Piping (SMP) and Electrical and Instrument Service) 3.บริการงานด้านวิศวกรรมโยธาและอาคาร (Civil and Building Service) และ 4.บริการผลิต ประกอบ และบริการอื่น (Fabrication and Other Service)
ด้านนางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ กล่าวเสริมว่า แผนการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสามารถของการรับงานในอนาคต โดยการระดมทุนดังกล่าวยังใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแก่ธนาคาร รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์ในการประกอบธุรกิจและการพัฒนาด้านไอที ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ยังช่วยให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทลดลง ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มช่องทางในการจัดหาเงินทุนมากขึ้นในอนาคต สำหรับส่วนที่เหลือบริษัทจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อดำเนินงานในอนาคต
" ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับ CAZ ในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และหลังจากได้รับเงินระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยต่อยอดให้ CAZ มีความสามารถในการเข้ารับงานเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต"นางปิยะภา กล่าว