กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--IR PLUS
PHOL เปิดแผน ปี 2562 มั่นใจผลงานฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2561 ที่พลิกมีกำไรตามแผน การลงทุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อานิสงส์หน่วยงานรัฐ-เอกชนยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยเพิ่มขึ้น เดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการรองรับการขยายฐานลูกค้า หนุนรายได้และกำไร
นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจปี 2562 คาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2561 เนื่องจากการลงทุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนยังขยายตัวต่อเนื่อง และให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจของบริษัทมีทิศทางเติบโตเช่นกัน
"ปี 2562 มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังมีทิศทางขยายตัว ภาครัฐและเอกชนยังมีโครงการลงทุนต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจต่างๆ โดยบริษัทฯยังแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือธุรกิจสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ SAFETY ธุรกิจสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE และธุรกิจด้านระบบน้ำ หรือ WATER โดยธุรกิจหลักด้านการจัดหน่ายสินค้า SAFETY ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการ รองรับการขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีการสั่งซื้อแบบประมูลหรือทำสัญญาระยะยาว และลูกค้ากลุ่มที่มีการใช้เป็นวัสดุสิ้นเปลืองต่อเนื่อง ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า CE มุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงสินค้า เพิ่มเติมรายการสินค้าที่ตรงตามความต้องการ สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย และสำหรับด้านธุรกิจ WATER เน้นการให้บริการในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับงานได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องงานประปาชุมชนค้างส่งเช่นปีก่อน โดยในปี 2562 คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จาก SAFETY CE และ WATER ที่ 72% 18% และ 10% ตามลำดับ " นายบุญชัย กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ รวม 691.97 ล้านบาท ลดลง 60.32 ล้านบาท หรือ 8.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและบริการรวม 752.29 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิที่เป็นของบริษัทใหญ่ ในงวด 9 เดือนของปี 2561 จำนวน 29.65 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.25% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุนสทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 84.44 ล้านบาท