กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
PYLON เชื่อปีหนูไฟสถานการณ์งานฐานรากดีขึ้น คาดหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จจะเริ่มมีงานทยอยออกสู่ตลาดต่อเนื่องทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจหลังพลิกแผนลุยงานภาคเอกชนเสริมงานรัฐ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและควบคุมต้นทุนการผลิต หนุนรายได้ปี 51 โตได้ 25-35% ทะลุ 500-550 ลบ.ได้สำเร็จ และปั๊มมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20-25% จาก 15% ในปีที่ผ่านมา
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจรับเหมาวางฐานรากในปี 2551 โดยเชื่อว่าภาพรวมของตลาดจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2550 ทั้งปริมาณงานและการแข่งขัน เนื่องจากภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งผลักดันงานออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะเดียวกันภาคเอกชนคงมีโครงการออกมามากเช่นกันเมื่อการเมืองมีความชัดเจน ดังนั้นเมื่อมีปริมาณงานเข้าสู่ตลาดมากขึ้น จะทำให้การแข่งขันเคยเกิดขึ้นอย่างดุเดือดในปี 2550 ลดความรุนแรงลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อทั้ง PYLON และผู้ประกอบการรายอื่น เพราะทำให้การแข่งขันลดลงโดยเฉพาะในเรื่องของราคาจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ปรับตัวดีขึ้นด้วย
"ในครึ่งหลังปีนี้ คาดว่างานภาครัฐจะทยอยไหลลงสู่ตลาด และจะทำให้การแข่งขันลดความร้อนแรงลง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทุกราย ทำให้มาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้นด้วย สำหรับ PYLON ในปีที่ผ่านมาได้ปรับแผนธุรกิจโดยหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มขึ้น จนทำให้งานในส่วนเสาเข็มยังเติบโตได้แม้ว่าภาวะตลาดโดยรวมปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนซึ่งถือว่าเดินทางถูกทาง ในปีนี้จึงวางแผนบุกตลาดเอกชนต่อไป"
ทั้งนี้ จากปริมาณงานในตลาดที่ยังมีไม่มากนัก อาจทำให้การแข่งขันโดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาจะยังมีอยู่แม้ว่าจะลดความรุนแรงลงบ้าง แต่เชื่อว่าบริษัทฯจะสามารถรับมือกับการแข่งขันดังกล่าวได้อย่างคล่องตัวเช่นเดียวกับเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังเพิ่มการให้บริการกับลูกค้า ในลักษณะให้บริการคำแนะนำ คำปรึกษาเพิ่มเติมด้านฐานราก รวมทั้งขยายการรับงานด้านฐานรากให้เต็มรูปแบบมากขึ้น นอกเหนือจากการให้บริการด้านเสาเข็มเจาะ โดยจะขยายบริการในด้านการก่อสร้างงานชั้นใต้ดินด้วย พร้อมกันนี้ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของงานและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่ยังคงโดดเด่นเหนือผู้ประกอบการรายอื่น จึงทำให้ PYLON ยังได้รับการยอมรับจากลูกค้า
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายว่าเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจะผลักดันให้แนวโน้มผลประกอบการของ PYLON ในปี 2551 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 25-35% มาอยู่ที่ 500-550 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 15% มาอยู่ที่ระดับ 20-25% ได้สำเร็จ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 089-4888337 / 02-5549395